เมนู

พระวินัยปิฏก ปริวาร [สมถเภท] 6. อธิกรณปริยายวาร
ตอบ : อนุวาทาธิกรณ์ ระงับด้วยสมถะ 4 คือ (1) สัมมุขาวินัย (2) สติวินัย
(3) อมูฬหวินัย (4) ตัสสปาปิยสิกา
[295] ถาม : อาปัตตาธิกรณ์ มีอะไรเป็นหัวหน้า
ตอบ : มีความโลภเป็นหัวหน้า มีความโกรธเป็นหัวหน้า มีความหลงเป็นหัวหน้า
มีความไม่โลภเป็นหัวหน้า มีความไม่โกรธเป็นหัวหน้า มีความไม่หลงเป็นหัวหน้า
ถาม : มีฐานเท่าไร
ตอบ : มีฐาน คือ กองอาบัติ 7 กอง
ถาม : มีวัตถุเท่าไร
ตอบ : มีวัตถุ คือ กองอาบัติ 7 กอง
ถาม : มีภูมิเท่าไร
ตอบ : มีภูมิ คือ กองอาบัติ 7 กอง
ถาม : มีเหตุเท่าไร
ตอบ : มีเหตุ 9 คือ กุศลเหตุ 3 อกุศลเหตุ 3 อัพยากตเหตุ 3
ถาม : มีมูลเท่าไร
ตอบ : มีมูล คือ สมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สมุฏฐาน
ถาม : ภิกษุต้องอาบัติด้วยอาการเท่าไร
ตอบ : ภิกษุต้องอาบัติด้วยอาการ 6 คือ (1) ไม่ละอาย (2) ไม่รู้ (3) สงสัย
แล้วขืนทำ (4) สำคัญในของไม่สมควรว่าสมควร (5) สำคัญในของสมควรว่าไม่สมควร
(6) ลืมสติ
ถาม : อาปัตตาธิกรณ์ ระงับด้วยสมถะเท่าไร
ตอบ : อาปัตตาธิกรณ์ ระงับด้วยสมถะ 3 คือ (1) สัมมุขาวินัย
(2) ปฏิญญาตกรณะ (3) ติณวัตถารกะ
[296] ถาม : กิจจาธิกรณ์ มีอะไรเป็นหัวหน้า

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 8 หน้า :394 }


พระวินัยปิฎก ปริวาร [สมถเภท] 6. อธิกรณปริยายวาร
ตอบ : มีความโลภเป็นหัวหน้า มีความโกรธเป็นหัวหน้า มีความหลงเป็นหัวหน้า
มีความไม่โลภเป็นหัวหน้า มีความไม่โกรธเป็นหัวหน้า มีความไม่หลงเป็นหัวหน้า
ถาม : มีฐานเท่าไร
ตอบ : มีฐาน คือ กรรม 4
ถาม : มีวัตถุเท่าไร
ตอบ : มีวัตถุ คือ กรรม 4
ถาม : มีภูมิเท่าไร
ตอบ : มีภูมิ คือ กรรม 4
ถาม : มีเหตุเท่าไร
ตอบ : มีเหตุ 9 คือ กุศลเหตุ 3 อกุศลเหตุ 3 อัพยากตเหตุ 3
ถาม : มีมูลเท่าไร
ตอบ : มีมูล 1 คือ สงฆ์
ถาม : กิจเกิดด้วยอาการเท่าไร
ตอบ : กิจเกิดด้วยอาการ 2 คือ (1) ญัตติ (2) อปโลกน์
ถาม : กิจจาธิกรณ์ ระงับด้วยสมถะเท่าไร
ตอบ : กิจจาธิกรณ์ ระงับด้วยสมถะ 1 คือ สัมมุขาวินัย
ถาม : สมถะ มีเท่าไร
ตอบ : สมถะมี 7 คือ

1. สัมมุขาวินัย 2. สติวินัย
3. อมูฬหวินัย 4. ปฏิญญาตกรณะ
5. เยภุยยสิกา 6. ตัสสปาปิยสิกา
7. ติณวัตถารกะ สมถะมี 7 เหล่านี้

สมถะ 7 เหล่านี้ เป็นสมถะ 10 ก็มี สมถะ 10 เป็นสมถะ 7 ก็มี มีโดย
อ้อมด้วยอำนาจวัตถุ
ถาม : พึงเป็นได้อย่างไร

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 8 หน้า :395 }