เมนู

พระวินัยปิฎก ปริวาร [อันตรเปยยาล] 5. อธิกรณปัจจยวาร
ถาม : อาบัติเหล่านั้น บรรดาวิบัติ 4 อย่าง จัดเป็นวิบัติเท่าไร ฯลฯ
บรรดาสมถะ 7 อย่าง ระงับด้วยสมถะเท่าไร
ตอบ : อาบัติเหล่านั้น บรรดาวิบัติ 4 อย่าง จัดเป็นวิบัติ 1 อย่าง คือ
อาจารวิบัติ
บรรดากองอาบัติ 7 กอง จัดเข้ากองอาบัติ 2 กอง คือ (1) กองอาบัติ
ปาจิตตีย์ (2) กองอาบัติทุกกฏ
บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน 3 สมุฏฐาน
คือ (1) เกิดทางกายกับจิต มิใช่เกิดทางวาจา (2) เกิดทางวาจากับจิต มิใช่
เกิดทางกาย (3) เกิดทางกายวาจากับจิต
บรรดาอธิกรณ์ 4 อย่าง จัดเป็นอาปัตตาธิกรณ์
บรรดาสมถะ 7 อย่าง ระงับด้วยสมถะ 3 อย่าง คือ (1) สัมมุขาวินัย
(2) ปฏิญญาตกรณะ (3) สัมมุขาวินัยและติณวัตถารกะ
[289] ถาม : เพราะอนุวาทาธิกรณ์เป็นปัจจัย ต้องอาบัติเท่าไร
ตอบ : เพราะอนุวาทาธิกรณ์เป็นปัจจัย ต้องอาบัติ 3 อย่าง คือ
1. ภิกษุใส่ความภิกษุด้วยอาบัติชั้นปาราชิกที่ไม่มีมูล ต้องอาบัติ
สังฆาทิเสส
2. ภิกษุใส่ความภิกษุด้วยอาบัติสังฆาทิเสสที่ไม่มีมูล ต้องอาบัติ
ปาจิตตีย์
3. ภิกษุใส่ความภิกษุด้วยอาจารวิบัติที่ไม่มีมูล ต้องอาบัติทุกกฏ
เพราะอนุวาทาธิกรณ์เป็นปัจจัย ต้องอาบัติ 3 อย่างเหล่านี้
ถาม : อาบัติเหล่านั้น บรรดาวิบัติ 4 อย่าง จัดเป็นวิบัติเท่าไร ฯลฯ
บรรดาสมถะ 7 อย่าง ระงับด้วยสมถะเท่าไร
ตอบ : อาบัติเหล่านั้น บรรดาวิบัติ 4 อย่าง จัดเป็นวิบัติ 2 อย่าง คือ
(1) สีลวิบัติ (2) อาจารวิบัติ
บรรดากองอาบัติ 7 กอง จัดเข้ากองอาบัติ 3 กอง คือ (1) กองอาบัติ
สังฆาทิเสส (2) กองอาบัติปาจิตตีย์ (3) กองอาบัติทุกกฏ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 8 หน้า :388 }