เมนู

พระวินัยปิฎก ปริวาร [อันตรเปยยาล] 4. วิปัตติปัจจยวาร
ตอบ : อาบัติเหล่านั้น บรรดาวิบัติ 4 อย่าง จัดเป็นวิบัติ 1 คือ อาจารวิบัติ
บรรดากองอาบัติ 7 กอง จัดเข้ากองอาบัติ 2 กอง คือ (1) กองอาบัติ
ปาจิตตีย์ (2) กองอาบัติทุกกฏ
บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน 1 สมุฏฐาน
คือ เกิดทางกายวาจากับจิต
บรรดาอธิกรณ์ 4 อย่าง จัดเป็นอาปัตตาธิกรณ์
บรรดาสมถะ 7 อย่าง ระงับด้วยสมถะ 3 อย่าง คือ (1) สัมมุขาวินัย
(2) ปฏิญญาตกรณะ (3) สัมมุขาวินัยและติณวัตถารกะ
[287] ถาม : เพราะอาชีววิบัติเป็นปัจจัย ต้องอาบัติเท่าไร
ตอบ : เพราะอาชีววิบัติเป็นปัจจัย ต้องอาบัติ 6 สมุฏฐาน คือ
1. เพราะเหตุแห่งอาชีวะ เพราะการณ์แห่งอาชีวะ ภิกษุผู้มีความปรารถนา
ชั่วช้า ถูกความอยากครอบงำ กล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรมที่ไม่มีอยู่
ไม่เป็นจริง ต้องอาบัติปาราชิก
2. เพราะเหตุแห่งอาชีวะ เพราะการณ์แห่งอาชีวะ ภิกษุทำหน้าชักสื่อ
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
3. เพราะเหตุแห่งอาชีวะ เพราะการณ์แห่งอาชีวะ ภิกษุกล่าวว่า “ภิกษุ
รูปใดอยู่ในวิหารของท่าน ภิกษุรูปนั้นเป็นพระอรหันต์” เมื่อผู้ฟัง
เข้าใจ ต้องอาบัติถุลลัจจัย
4. เพราะเหตุแห่งอาชีวะ เพราะการณ์แห่งอาชีวะ ภิกษุออกปากขอ
โภชนะอันประณีตมาเพื่อประโยชน์ของตนแล้วฉัน ต้องอาบัติปาจิตตีย์
5. เพราะเหตุแห่งอาชีวะ เพราะการณ์แห่งอาชีวะ ภิกษุณีออกปาก
ขอโภชนะอันประณีตมาเพื่อประโยชน์ของตนแล้วฉัน ต้องอาบัติ
ปาฏิเทสนียะ
6. เพราะเหตุแห่งอาชีวะ เพราะการณ์แห่งอาชีวะ ภิกษุไม่เป็นไข้ออกปาก
ขอแกง หรือข้าวสุกมาเพื่อประโยชน์ตนแล้วฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ
เพราะอาชีววิบัติเป็นปัจจัย ต้องอาบัติ 6 อย่างเหล่านี้

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 8 หน้า :386 }


พระวินัยปิฎก ปริวาร [อันตรเปยยาล] 5. อธิกรณปัจจยวาร
ถาม : อาบัติเหล่านั้น บรรดาวิบัติ 4 อย่าง จัดเป็นวิบัติเท่าไร ฯลฯ
บรรดาสมถะ 7 อย่าง ระงับด้วยสมถะเท่าไร
ตอบ : อาบัติเหล่านั้น บรรดาวิบัติ 4 อย่าง จัดเป็นวิบัติ 2 อย่าง คือ
(1) สีลวิบัติ (2) อาจารวิบัติ
บรรดากองอาบัติ 7 กอง จัดเข้ากองอาบัติ 6 กอง คือ (1) กองอาบัติปาราชิก
(2) กองอาบัติสังฆาทิเสส (3) กองอาบัติถุลลัจจัย (4) กองอาบัติปาจิตตีย์
(5) กองอาบัติปาฏิเทสนียะ (6) กองอาบัติทุกกฏ
บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน 6 สมุฏฐาน คือ
(1) เกิดทางกาย มิใช่ทางวาจา มิใช่เกิดทางจิต (2) เกิดทางวาจา มิใช่เกิดทางกาย
มิใช่เกิดทางจิต (3) เกิดทางกายกับวาจา มิใช่เกิดทางจิต (4) เกิดทางกายกับจิต
มิใช่เกิดทางวาจา (5) เกิดทางวาจากับจิต มิใช่เกิดทางกาย (6) เกิดทางกาย
วาจากับจิต
บรรดาอธิกรณ์ 4 อย่าง จัดเป็นอาปัตตาธิกรณ์
บรรดาสมถะ 7 อย่าง ระงับด้วยสมถะ 3 อย่าง คือ (1) สัมมุขาวินัย
(2) ปฏิญญาตกรณะ (3) สัมมุขาวินัยและติณวัตถารกะ
วิปัตติปัจจยวารที่ 4 จบ

5. อธิกรณปัจจยวาร
วาระว่าด้วยอธิกรณ์เป็นปัจจัย
[288] ถาม : เพราะวิวาทาธิกรณ์เป็นปัจจัย ต้องอาบัติเท่าไร
ตอบ : เพราะวิวาทาธิกรณ์เป็นปัจจัย ต้องอาบัติ 2 อย่าง คือ
1. ภิกษุกล่าวเสียดสีอุปสัมบัน ต้องอาบัติปาจิตตีย์
2. ภิกษุกล่าวเสียดสีอนุปสัมบัน ต้องอาบัติทุกกฏ
เพราะวิวาทาธิกรณ์เป็นปัจจัย ต้องอาบัติ 2 อย่างเหล่านี้

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 8 หน้า :387 }