เมนู

พระวินัยปิฏก ปริวาร [อันตรเปยยาล] 4. วิปัตติปัจจยวาร
[285] ถาม : เพราะอาจารวิบัติเป็นปัจจัย ต้องอาบัติเท่าไร
ตอบ : เพราะอาจารวิบัติเป็นปัจจัย ต้องอาบัติ 1 อย่าง คือ ภิกษุปิด
อาจารวิบัติ ต้องอาบัติทุกกฏ
เพราะอาจารวิบัติเป็นปัจจัย ต้องอาบัติ 1 อย่างนี้
ถาม : อาบัติเหล่านั้น บรรดาวิบัติ 4 อย่าง จัดเป็นวิบัติเท่าไร ฯลฯ บรรดา
สมถะ 7 อย่าง ระงับด้วยสมถะเท่าไร
ตอบ : อาบัติเหล่านั้น บรรดาวิบัติ 4 อย่าง จัดเป็นวิบัติ 1 อย่าง คือ
อาจารวิบัติ
บรรดากองอาบัติ 7 กอง จัดเข้ากองอาบัติ 1 กอง คือ กองอาบัติทุกกฏ
บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน 1 สมุฏฐาน
คือ เกิดทางกายวาจากับจิต
บรรดาอธิกรณ์ 4 อย่าง จัดเป็นอาปัตตาธิกรณ์
บรรดาสมถะ 7 อย่าง ระงับด้วยสมถะ 3 อย่าง คือ (1) สัมมุขาวินัย
(2) ปฏิญญาตกรณะ (3) สัมมุขาวินัยและติณวัตถารกะ
[286] ถาม : เพราะทิฏฐิวิบัติเป็นปัจจัย ต้องอาบัติเท่าไร
ตอบ : เพราะทิฏฐิวิบัติเป็นปัจจัย ต้องอาบัติ 2 อย่าง คือ
1. ภิกษุไม่สละทิฏฐิบาป จนกระทั่งสงฆ์สวดสมนุภาสน์ครบ 3 ครั้ง
จบญัตติต้องอาบัติทุกกฏ จบกรรมวาจา 2 ครั้ง ต้องอาบัติทุกกฏ
2 ตัว
2. จบกรรมวาจาครั้งสุดท้าย ต้องอาบัติปาจิตตีย์
เพราะทิฏฐิวิบัติเป็นปัจจัย ต้องอาบัติ 2 อย่างเหล่านี้
ถาม : อาบัติเหล่านั้น บรรดาวิบัติ 4 อย่าง จัดเป็นวิบัติเท่าไร ฯลฯ
บรรดาสมถะ 7 อย่าง ระงับด้วยสมถะเท่าไร

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 8 หน้า :385 }