เมนู

พระวินัยปิฎก ปริวาร [อันตรเปยยาล] 2. กตาปัตติวาร
บรรดาสมถะ 7 อย่าง ระงับด้วยสมถะ 3 อย่าง คือ (1) สัมมุขาวินัย
(2) ปฏิญญาตกรณะ (3) สัมมุขาวินัยและติณวัตถารกะ
[281] ถาม : ด้วยสมุฏฐานแห่งอาบัติข้อที่ 5 ภิกษุต้องอาบัติเท่าไร
ตอบ : ด้วยสมุฏฐานแห่งอาบัติข้อที่ 5 ภิกษุต้องอาบัติ 6 อย่าง คือ
1. ภิกษุมีความปรารถนาชั่วช้า ถูกความอยากครอบงำ กล่าวอวด
อุตตริมนุสสธรรมที่ไม่มีอยู่ ไม่เป็นจริง ต้องอาบัติปาราชิก
2. ภิกษุมีความสำคัญว่าไม่ควร สั่งว่า “จงสร้างกุฎีให้เรา” ผู้รับคำสั่ง
สร้างกุฎีให้แก่ภิกษุนั้น ซึ่งสงฆ์ไม่ได้แสดงพื้นที่ให้ สร้างเกินขนาด
เป็นพื้นที่มีอันตราย ไม่มีบริเวณโดยรอบ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะ
พยายาม
3. ยังเหลืออิฐอีกก้อนหนึ่งจึงจะเสร็จ ต้องอาบัติถุลลัจจัย
4. อิฐก้อนสุดท้ายเสร็จแล้ว ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
5. ภิกษุมีความสำคัญว่าไม่ควร สอนอนุปสัมบันให้กล่าวธรรมแข่งกัน
เป็นบท ๆ ต้องอาบัติปาจิตตีย์
6. ภิกษุไม่ต้องการจะด่า ไม่ต้องการจะสบประมาท ไม่ต้องการจะทำ
ให้เก้อเขิน ต้องการจะเล่น กล่าวกับอุปสัมบันชาติกำเนิดต่ำ
ด้วยถ้อยคำบ่งถึงชาติกำเนิดต่ำ ต้องอาบัติทุพภาสิต
ด้วยสมุฏฐานแห่งอาบัติข้อที่ 5 ภิกษุต้องอาบัติ 6 อย่างเหล่านี้
ถาม : อาบัติเหล่านั้น บรรดาวิบัติ 4 อย่าง จัดเป็นวิบัติเท่าไร ฯลฯ
บรรดาสมถะ 7 อย่าง ระงับด้วยสมถะเท่าไร
ตอบ : อาบัติเหล่านั้น บรรดาวิบัติ 4 อย่าง จัดเป็นวิบัติ 2 อย่าง คือ
(1) สีลวิบัติ (2) อาจารวิบัติ
บรรดากองอาบัติ 7 กอง จัดเข้ากองอาบัติ 6 กอง คือ (1) กองอาบัติปาราชิก
(2) กองอาบัติสังฆาทิเสส (3) กองอาบัติถุลลัจจัย (4) กองอาบัติปาจิตตีย์
(5) กองอาบัติทุกกฏ (6) กองอาบัติทุพภาสิต

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 8 หน้า :379 }


พระวินัยปิฎก ปริวาร [อันตรเปยยาล] 2. กตาปัตติวาร
บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน 1 สมุฏฐาน
คือ เกิดทางวาจากับจิต มิใช่เกิดทางกาย
บรรดาอธิกรณ์ 4 อย่าง จัดเป็นอาปัตตาธิกรณ์
บรรดาสมถะ 7 อย่าง ระงับด้วยสมถะ 3 อย่าง คือ (1) สัมมุขาวินัย
(2) ปฏิญญาตกรณะ (3) สัมมุขาวินัยและติณวัตถารกะ
[282] ถาม : ด้วยสมุฏฐานแห่งอาบัติข้อที่ 6 ภิกษุต้องอาบัติเท่าไร
ตอบ : ด้วยสมุฏฐานแห่งอาบัติข้อที่ 6 ภิกษุต้องอาบัติ 6 อย่างคือ
1. ภิกษุชวนกันไปลักทรัพย์ ต้องอาบัติปาราชิก
2. ภิกษุมีความสำคัญว่าไม่ควร สร้างกุฎีซึ่งสงฆ์ไม่ได้แสดงพื้นที่ให้
เกินขนาด มีอันตราย ไม่มีบริเวณโดยรอบ ต้องอาบัติทุกกฏ
เพราะพยายาม
3. ยังเหลืออิฐอีกก้อนหนึ่งจึงจะเสร็จ ต้องอาบัติถุลลัจจัย
4. อิฐก้อนสุดท้ายเสร็จแล้ว ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
5. ภิกษุมีความสำคัญว่าไม่ควร ออกปากขอโภชนะอันประณีตมาเพื่อ
ประโยชน์แก่ตนแล้วฉัน ต้องอาบัติปาจิตตีย์
6. ภิกษุมีความสำคัญว่าไม่ควร ไม่ห้ามภิกษุณีผู้คอยบงการ ฉันอยู่
ต้องอาบัติปาฏิเทสนียะ
ด้วยสมุฏฐานแห่งอาบัติข้อที่ 6 ภิกษุต้องอาบัติ 6 อย่างเหล่านี้
ถาม : อาบัติเหล่านั้น บรรดาวิบัติ 4 อย่าง จัดเป็นวิบัติเท่าไร บรรดากอง
อาบัติ 7 กอง จัดเข้ากองอาบัติเท่าไร บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สมุฏฐาน
เกิดด้วยสมุฏฐานเท่าไร บรรดาอธิกรณ์ 4 อย่าง จัดเป็นอธิกรณ์ไหน บรรดาสมถะ
7 อย่าง ระงับด้วยสมถะเท่าไร
ตอบ : อาบัติเหล่านั้น บรรดาวิบัติ 4 อย่าง จัดเป็นวิบัติ 2 อย่าง คือ
(1) สีลวิบัติ (2) อาจารวิบัติ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 8 หน้า :380 }