เมนู

พระวินัยปิฎก ปริวาร [สมุฏฐานสีสสังเขป] 12. โจรีวุฏฐาปนสมุฏฐาน
10. ธัมมเทสนาสมุฏฐาน
[267] พระตถาคตเจ้าจะไม่ทรงแสดงพระสัทธรรมแก่คนกั้นร่ม
ผู้ถือไม้พลอง ผู้ถือศัสตรา ผู้ถืออาวุธ ผู้สวมเขียงเท้า
ผู้สวมรองเท้า ผู้อยู่ในยานพาหนะ ผู้อยู่บนที่นอน ผู้นั่งรัดเข่า
ผู้โพกศีรษะ ผู้คลุมศีรษะ รวมเป็น 11 สิกขาบทพอดี
เกิดทางวาจากับจิต มิใช่เกิดทางกาย
ทุกสิกขาบทมีสมุฏฐานอันหนึ่ง เสมอกับธัมมเทสนาสิกขาบท
ธัมมเทสนาสมุฏฐาน จบ

11. ภูตาโรจนสมุฏฐาน
[268] ภูตาโรจนสิกขาบทว่าด้วยการบอกอุตตริมนุสสธรรมที่มีจริง
เกิดทางกาย มิใช่เกิดทางวาจา มิใช่เกิดทางจิต
เกิดทางวาจา มิใช่เกิดทางกาย มิใช่เกิดทางจิต
เกิดทางกายกับวาจา มิใช่เกิดทางจิต
ขึ้นชื่อว่าภูตาโรจนสิกขาบทย่อมเกิดจาก 3 สมุฏฐาน
ภูตาโรจนสมุฏฐาน จบ

12. โจรีวุฏฐาปนสมุฏฐาน
[269] โจรีวุฏฐาปนสิกขาบท ว่าด้วยการบวชให้สตรีผู้เป็นโจร
โจรีวุฏฐาปนสิกขาบทนี้ เกิดทางวาจากับจิต
มิใช่เกิดทางกาย และเกิดทางทวารทั้ง 3
สิกขาบทนี้พระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นพระธรรมราชาทรงบัญญัติไว้ว่ามี
2 สมุฏฐาน ไม่ซ้ำกัน
โจรีวุฏฐาปนสมุฏฐาน จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 8 หน้า :359 }


พระวินัยปิฎก ปริวาร [สมุฏฐานสีสสังเขป] 13. อนนุญญาตสมุฏฐาน
13. อนนุญญาตสมุฏฐาน
[270] อนนุญญาตสิกขาบท ว่าด้วยการบวชให้สิกขมานา
ที่ยังไม่ได้รับอนุญาต
เกิดทางวาจา มิใช่เกิดทางกาย มิใช่เกิดทางจิต
เกิดทางกายกับวาจา มิใช่เกิดทางจิต
เกิดทางวาจากับจิต มิใช่เกิดทางกาย
และเกิดทางทวารทั้ง 3
จึงมี 4 สมุฏฐาน ไม่ซ้ำกัน
อนนุญญาตสมุฏฐาน จบ

ความจริง สมุฏฐานโดยย่อทั้ง 13 สิกขาบท
พระองค์ทรงแสดงไว้ดีแล้ว ซึ่งเป็นเหตุทำความไม่หลง
อนุโลมในหัวข้อหลักธรรมที่เป็นแบบแผน
วิญญูชนเมื่อจำสมุฏฐานนี้ไว้ได้
ก็จะไม่หลงในสมุฏฐานแล
สมุฏฐานสีสสังเขป จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 8 หน้า :360 }