เมนู

พระวินัยปิฎก ปริวาร [สมุฏฐานสีสสังเขป] สมุฏฐานสีสสังเขป
3. สมุฏฐานสีสสังเขป
ว่าด้วยการย่อหัวข้อสมุฏฐาน
[257] สังขารทั้งปวงที่ปัจจัยปรุงแต่ง ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
พระนิพพานและบัญญัติ ท่านวินิจฉัยว่าเป็นอนัตตา1
เมื่อดวงจันทร์คือพระพุทธเจ้ายังไม่เกิดขึ้น
เมื่อดวงอาทิตย์คือพระพุทธเจ้ายังไม่อุทัยขึ้นมา
เพียงชื่อของสภาคธรรมเหล่านั้น ก็ยังไม่มีใครรู้จัก
พระมหาธีรเจ้าทั้งหลายผู้ทรงเป็นดวงตา
ทรงทำทุกกรกิริยาหลายอย่าง
บำเพ็ญพระบารมีแล้วเสด็จอุบัติขึ้นในโลกอันเป็นไปพร้อมทั้งพรหมโลก
พระองค์ทรงแสดงพระสัทธรรมอันกำจัดเสียซึ่งทุกข์นำมาซึ่งความสุข
พระอังคีรสศากยมุนีทรงเป็นผู้อนุเคราะห์แก่หมู่สัตว์ทุกถ้วนหน้า
พระองค์ผู้ทรงอุดมกว่าสรรพสัตว์ดุจราชสีห์
ทรงแสดงพระไตรปิฎก คือ พระสุตตันตะ
พระอภิธรรม พระวินัย ซึ่งมีคุณมาก
พระสัทธรรมจะเป็นไปได้ หากพระวินัยคืออุภโตวิภังค์
ขันธกะและมาติกายังดำรงอยู่
พระวินัยท่านร้อยกรองไว้ด้วยคัมภีร์ปริวาร
เหมือนดอกไม้ร้อยด้วยเส้นด้าย
สมุฏฐานแห่งคัมภีร์ปริวารนั่นแล ท่านจัดไว้แน่นอนแล้ว
ความเจือปน นิทานและสิ่งอื่น จะปรากฏในพระสูตรข้างหน้า
เพราะฉะนั้น ภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รัก
ต้องการศึกษาพระธรรมก็พึงศึกษาคัมภีร์ปริวารเถิด

เชิงอรรถ :
1 ที่ท่านนำสิ่งที่เป็นบัญญัติมาวินิจฉัยว่า “เป็นอนัตตา” ร่วมกับพระนิพพานซึ่งเป็นปรมัตถธรรมนั้น เพราะ
ว่าต่างก็เป็นสิ่งที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งเหมือนกัน (วิมติ.ฏีกา 2/257/351)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 8 หน้า :342 }