พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์] 2. กตาปัตติวาร 4. ปาจิตติยกัณฑ์ 8. กุมารีภูตวรรค
1. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม
2. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์
สิกขาบทที่ 6
ภิกษุณีผู้อันสงฆ์กล่าวอยู่ว่า แม่เจ้า ท่านอย่าบวชให้กุลธิดาเลย รับคำแล้ว
ภายหลังกลับบ่นว่า ต้องอาบัติ 2 อย่าง คือ
1. กำลังบ่นว่า ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม
2. เมื่อบ่นว่าแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์
สิกขาบทที่ 7
ภิกษุณีกล่าวกับสิกขมานาว่า แม่คุณ ถ้าเธอจักให้จีวรแก่เรา เราก็จะบวช
ให้เธอ แล้วไม่บวชให้ ไม่ขวนขวายใช้ให้บวชให้ ต้องอาบัติ 1 อย่าง คือ
อาบัติปาจิตตีย์
สิกขาบทที่ 8
ภิกษุณีกล่าวกับสิกขมานาว่า แม่คุณ ถ้าเธอจักติดตามเราตลอด 2 ปี
เราก็จะบวชให้เธอ แล้วไม่บวชให้ ไม่ขวนขวายใช้ให้บวชให้ ต้องอาบัติ 1 อย่าง คือ
อาบัติปาจิตตีย์
สิกขาบทที่ 9
ภิกษุณีบวชให้สิกขมานาผู้คลุกคลีกับชาย คลุกคลีกับเด็กหนุ่ม ดุร้าย ผู้ทำชาย
ให้ระทมโศก ต้องอาบัติ 2 อย่าง คือ
1. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม
2. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์] 2. กตาปัตติวาร 4. ปาจิตติยกัณฑ์ 8. กุมารีภูตวรรค
สิกขาบทที่ 10
ภิกษุณีบวชให้สิกขมานา ที่มารดาบิดาหรือสามียังไม่ได้อนุญาต ต้องอาบัติ
2 อย่าง คือ
1. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม
2. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์
สิกขาบทที่ 11
ภิกษุณีบวชให้สิกขมานาด้วยการให้ปาริวาสิกฉันทะ1 ต้องอาบัติ 2 อย่าง คือ
1. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม
2. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์
สิกขาบทที่ 12
ภิกษุณีบวชให้สิกขมานาทุก ๆ ปี ต้องอาบัติ 2 อย่าง คือ
1. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม
2. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์
สิกขาบทที่ 13
ภิกษุณีบวชให้สิกขมานา 2 รูป ใน 1 ปี ต้องอาบัติ 2 อย่าง คือ
1. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม
2. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์
กุมารีภูตวรรคที่ 8 จบ
เชิงอรรถ :
1 ดูรายละเอียดใน วิ.ภิกฺขุนี. (แปล) 3/1166-1167/351-352(เชิงอรรถ)