เมนู

พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์] 2. กตาปัตติวาร 4. ปาจิตติยกัณฑ์ 6. อารามวรรค
สิกขาบทที่ 6
ภิกษุณีจำพรรษาในอาวาสที่ไม่มีภิกษุ ต้องอาบัติ 2 อย่าง คือ
1. ตั้งใจว่าจะจำพรรษาแล้วจัดแจงเสนาสนะ ตั้งน้ำฉันน้ำใช้ กวาดบริเวณ
ต้องอาบัติทุกกฏ
2. พออรุณขึ้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์

สิกขาบทที่ 7
ภิกษุณีอยู่จำพรรษาแล้ว ไม่ปวารณาในสงฆ์ 2 ฝ่าย ด้วยฐานะ 3 ต้องอาบัติ
1 อย่าง คือ อาบัติปาจิตตีย์

สิกขาบทที่ 8
ภิกษุณีไม่ไปรับโอวาท หรือธรรมเป็นเหตุอยู่ร่วมกัน ต้องอาบัติ 1 อย่าง คือ
อาบัติปาจิตตีย์

สิกขาบทที่ 9
ภิกษุณีไม่ถามอุโบสถบ้าง ไม่ถามโอวาทบ้าง ต้องอาบัติ 1 อย่าง คือ อาบัติ
ปาจิตตีย์

สิกขาบทที่ 10
ภิกษุณีไม่บอกสงฆ์หรือคณะ ใช้ให้บ่งฝีหรือบาดแผลที่เกิดในร่มผ้าอยู่กันสอง
ต่อสองกับชาย ต้องอาบัติ 2 อย่าง คือ
1. กำลังให้บ่ง ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม
2. เมื่อบ่งแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์
อารามวรรคที่ 6 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 8 หน้า :301 }


พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์] 2. กตาปัตติวาร 4. ปาจิตติยกัณฑ์ 7. คัพภินีวรรค
7. คัพภินีวรรค
สิกขาบทที่ 1
[237] ภิกษุณีบวชให้สตรีมีครรภ์ ต้องอาบัติ 2 อย่าง คือ
1. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม
2. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์

สิกขาบทที่ 2
ภิกษุณีบวชให้สตรีมีลูกยังดื่มนม ต้องอาบัติ 2 อย่าง คือ
1. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม
2. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์

สิกขาบทที่ 3
ภิกษุณีบวชให้สิกขมานาผู้ยังไม่ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ข้อ ตลอด 2 ปี
ต้องอาบัติ 2 อย่าง คือ
1. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม
2. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์

สิกขาบทที่ 4
ภิกษุณีบวชให้สิกขมานาผู้ได้ศึกษาสิกขาในธรรม 6 ข้อ ตลอด 2 ปีแล้ว
แต่สงฆ์ยังมิได้สมมติ ต้องอาบัติ 2 อย่าง คือ
1. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม
2. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์

สิกขาบทที่ 5
ภิกษุณีบวชให้หญิงที่มีครอบครัวมีอายุต่ำกว่า 12 ปี ต้องอาบัติ 2 อย่าง คือ
1. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม
2. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 8 หน้า :302 }