เมนู

พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุวิภังค์] 1. กัตถปัญญัตติวาร 2. สังฆาทิเลสกัณฑาทิ
ถาม : บรรดาพระปาติโมกขุทเทส 5 อุทเทส สุกกวิสัฏฐิสิกขาบทนี้จัดเข้าใน
อุทเทสไหน นับเนื่องในอุทเทสไหน
ตอบ : จัดเข้าในนิทานุทเทส นับเนื่องในนิทานุทเทส
ถาม : มาสู่อุทเทส โดยอุทเทสไหน
ตอบ : มาสู่อุทเทส โดยอุทเทสที่ 3
ถาม : บรรดาวิบัติ 4 อย่าง เป็นวิบัติอย่างไหน
ตอบ : เป็นสีลวิบัติ
ถาม : บรรดากองอาบัติ 7 กอง เป็นกองอาบัติไหน
ตอบ : เป็นกองอาบัติสังฆาทิเสส
ถาม : บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐานเท่าไร
ตอบ : เกิดด้วยสมุฏฐาน 1 สมุฏฐาน คือ เกิดทางกายกับจิต มิใช่เกิด
ทางวาจา
ถาม : ใครนำมา
ตอบ : พระเถระทั้งหลายนำสืบ ๆ กันมา
รายนามพระเถระผู้ทรงจำพระวินัยสืบกันมา
พระเถระเหล่านี้ คือ พระอุบาลี พระทาสกะ พระโสณกะ
พระสิคควะ และพระโมคคัลลีบุตร รวมเป็น 5 รูป
เป็นผู้นำพระวินัยสืบ ๆ กันมาในชมพูทวีปอันมีสิริ
จากนั้น พระเถระผู้ประเสริฐมีปัญญามากเหล่านี้ คือ
พระมหินทะ พระอิฏฏิยะ พระอุตติยะ พระสัมพละ ฯลฯ
พระเถระผู้ประเสริฐมีปัญญามากเหล่านี้ รู้พระวินัย
ฉลาดในมรรค ได้ประกาศพระวินัยปิฎกไว้ในเกาะตามพปัณณิ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 8 หน้า :180 }


พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุวิภังค์] 1. กัตถปัญญัตติวาร 2. สังฆาทิเลสกัณฑาทิ
2. กายสังสัคคสิกขาบท
ถาม : ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสเพราะการถูกต้องกายกับมาตุคามเป็นปัจจัย ณ
ที่ไหน
ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี
ถาม : ทรงปรารภใคร
ตอบ : ทรงปรารภท่านพระอุทายี
ถาม : เพราะเรื่องอะไร
ตอบ : เพราะเรื่องที่ท่านพระอุทายีถูกต้องกายกับมาตุคาม
ในกายสังสัคคสิกขาบทนั้นมี 1 พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6
สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน 1 สมุฏฐาน คือ เกิดทางกายกับจิต มิใช่เกิดทาง
วาจา
3. ทุฏฐุลลวาจาสิกขาบท
ถาม : ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสเพราะการพูดเกี้ยวมาตุคามด้วยวาจาชั่วหยาบ
เป็นปัจจัย ณ ที่ไหน
ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี
ถาม : ทรงปรารภใคร
ตอบ : ทรงปรารภท่านพระอุทายี
ถาม : เพราะเรื่องอะไร
ตอบ : เพราะเรื่องที่ท่านพระอุทายีพูดเกี้ยวมาตุคามด้วยวาจาชั่วหยาบ
ในทุฏฐุลลวาจาสิกขาบทนั้นมี 1 พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ 6
สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน 3 สมุฏฐาน คือ (1) เกิดทางกายกับจิต มิใช่เกิด
ทางวาจา (2) เกิดทางวาจากับจิต มิใช่เกิดทางกาย (3) เกิดทางกายวาจากับจิต

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 8 หน้า :181 }