เมนู

พระวินัยปืฎก จูฬวรรค [10. ภิกขุนี ขันธกะ] รวมเรื่องที่มีในภิกขุนีขันธกะ
ยานพาหนะที่ใช้มือลากไปภิกษุณีรูปหนึ่งไม่สบายอย่างหนัก
เพราะยานพาหนะกระเทือน ทรงอนุญาตวอและเปลหาม
หญิงแพศยาชื่ออัฑฒกาสีบวชในสำนักภิกษุณี ต้องการจะไป
กรุงสาวัตถีเพื่ออุปสมบทในสำนักพระผู้มีพระภาค
แต่มีโจรแอบซุ่มอยู่ในหนทาง
พระผู้มีพระภาคทรงอนุญาตการอุปสมบทด้วยทูต
โดยมีภิกษุณีเป็นทูต ทรงห้ามอุปสมบทภิกษุณีโดยมีภิกษุ
สิกขมานา สามเณร สามเณรี
หรือภิกษุณีผู้โง่เขลาเป็นทูต
ต่อมา ภิกษุณีรูปหนึ่งอยู่ในป่า ถูกโจรประทุษร้าย
พระผู้มีพระภาคทรงห้ามภิกษุณีอยู่ป่า
ทรงอนุญาตโรงเก็บของ ที่อยู่ นวกรรม
และเมื่อนวกรรมไม่เพียงพอก็สามารถทำเป็นของส่วนตัวได้
ต่อมา สตรีคนหนึ่งมีครรภ์ บวชในสำนักภิกษุณี คลอดบุตร
พระผู้มีพระภาคทรงห้ามอยู่เพียงลำพัง ทรงห้ามภิกษุณีนอนใน
ที่มุงบังเดียวกันกับเด็ก ทรงอนุญาตให้แต่งตั้งภิกษุณีเป็นเพื่อน
ของภิกษุณีผู้ต้องอาบัติหนัก กำลังประพฤติมานัต
ทรงวางข้อกำหนดว่า ภิกษุณีสึกออกไป
โดยไม่บอกคืนสิกขาถือว่าได้สึกไปแล้ว
ไม่ทรงอนุญาตให้บวชภิกษุณีทั้งหลายผู้ไปเข้ารีตเดียรถีย์
ภิกษุณีบางพวกไม่ยินดีการกราบ การปลงผม
การตัดเล็บ การรักษาแผลจากพวกบุรุษ
พระผู้มีพระภาคทรงอนุญาตให้ยินดีได้
ไม่ทรงอนุญาตให้ภิกษุณีนั่งขัดสมาธิ
ทรงอนุญาตให้ภิกษุณีเป็นไข้นั่งกึ่งขัดสมาธิ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 7 หน้า :373 }


พระวินัยปืฎก จูฬวรรค [10. ภิกขุนี ขันธกะ] รวมเรื่องที่มีในภิกขุนีขันธกะ
ไม่ทรงอนุญาตให้ภิกษุณีถ่ายอุจจาระในวัจกุฎี
ใช้จุรณสรงน้ำ ใช้ดินเหนียวอบกลิ่นสรงน้ำในเรือนไฟ
สรงน้ำทวนกระแส สรงน้ำในที่ไม่ใช่ท่าน้ำ
สรงน้ำที่ท่าของผู้ชาย
พระนางมหาปชาบดีโคตมีและท่านพระอานนท์กราบทูลขอ
อย่างระมัดระวัง พุทธบริษัท 4 บรรพชาในพระศาสนา
ของพระผู้มีพระภาค พระองค์ทรงแสดงขันธกะนี้ไว้
เพื่อให้เกิดความสังเวช และความเจริญแห่งพระสัทธรรม
เหมือนเภสัชสำหรับระงับความกระวนกระวาย
สตรีเหล่าอื่นที่ได้ฝึกฝนดีแล้วในพระสัทธรรมอย่างนี้
ย่อมไปสู่สถานที่อันไม่จุติซึ่งไปแล้วจะไม่เศร้าโศก
ภิกขุนีขันธกะ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 7 หน้า :374 }