เมนู

พระวินัยปืฎก จูฬวรรค [10. ภิกขุนี ขันธกะ] รวมเรื่องที่มีในภิกขุนีขันธกะ
ประกอบการค้าขาย ใช้ทาสทาสี
กรรมกรชายหญิงให้ปรนนิบัติ
ให้สัตว์ดิรัจฉานปรนนิบัติ ขายของสดและของสุก
ใช้สันถัตขนเจียมหล่อ
ต่อมา ภิกษุณีฉัพพัคคีย์ห่มจีวรสีเขียว
สีเหลือง สีแดง สีบานเย็น สีดำ สีแสด
สีชมพู จีวรไม้ตัดชาย มีชายยาว
มีชายเป็นลายดอกไม้ มีชายเป็นแผ่น สวมเสื้อ สวมหมวก
ต่อมา เมื่อภิกษุณี สิกขมานา สามเณรีถึงแก่มรณภาพ
ภิกษุณีสงฆ์เป็นใหญ่ในบริขารที่ภิกษุณีเป็นต้นนั้นมอบให้
เมื่อภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา
และใครอื่นปลงบริขารให้ ภิกษุสงฆ์เป็นใหญ่
ภิกษุณีอดีตภรรยานักมวยใช้ไหล่กระแทกภิกษุทุพพลภาพรูปหนึ่ง
ภิกษุณีรูปหนึ่งใช้บาตรใส่ทารกของหญิงคนหนึ่งที่แท้งออกมา
พระผู้มีพระภาคทรงกำหนดให้ภิกษุณีเมื่อพบภิกษุ
ต้องแสดงบาตรให้ดู ภิกษุณีรูปหนึ่งแสดงก้นบาตร
ภิกษุณีทั้งหลายเพ่งดูองคชาตของบุรุษที่เขาทิ้งไว้กลางถนน
ภิกษุทั้งหลายให้อามิสมากมายแก่ภิกษุณี
ภิกษุณีทั้งหลายมีอามิสเหลือเฟือ
ทรงอนุญาตให้ถวายเป็นของส่วนบุคคล
ทรงอนุญาตให้ภิกษุณีรับอามิสที่ภิกษุเก็บไว้มาบริโภคได้
และทรงอนุญาตให้ภิกษุรับอามิสที่ภิกษุณีทั้งหลาย
เก็บไว้มาบริโภคได้เช่นกัน
ภิกษุณีรูปหนึ่งมีระดู นั่งบ้าง นอนบ้าง ทำให้เสนาสนะ
เปื้อนโลหิต พระผู้มีพระภาคทรงอนุญาตผ้าผลัดเปลี่ยน
ทรงอนุญาตผ้าซับใน ทรงอนุญาตให้ใช้เชือกฟั่นผูกสะเอว
ในเวลาที่มีระดู ไม่ควรผูกไว้ตลอดเวลา

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 7 หน้า :370 }


พระวินัยปืฎก จูฬวรรค [10. ภิกขุนี ขันธกะ] รวมเรื่องที่มีในภิกขุนีขันธกะ
ภิกษุณีบางพวกเมื่ออุปสมบทแล้ว ปรากฏว่าไม่มีเครื่องหมาย
เพศบ้าง สักแต่ว่ามีเครื่องหมายเพศบ้าง ไม่มีประจำเดือนบ้าง
มีประจำเดือนไม่หยุดบ้าง ใช้ผ้าซับเสมอบ้าง เป็นคนไหลซึมบ้าง
มีเดือยบ้าง เป็นบัณเฑาะก์หญิงบ้าง มีลักษณะคล้ายชายบ้าง
มีทวารหนักทวารเบาติดกันบ้าง มี 2 เพศบ้าง
พระผู้มีพระภาคทรงอนุญาตให้สอบถามอันตรายิกธรรมว่า
เธอไม่มีเครื่องหมายเพศหรือจนถึงคำว่า
เธอเป็นคน 2 เพศหรือ
แล้วถามว่าเป็นโรคเรื้อน โรคฝี โรคกลาก โรคมองคร่อ
โรคลมบ้าหมู เป็นมนุษย์หรือ เป็นหญิงหรือ เป็นไทหรือ
ไม่มีหนี้สินหรือ ไม่เป็นราชภัฏหรือ บิดามารดาหรือ
สามีอนุญาตแล้วหรือ มีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์แล้วหรือ
มีบาตรจีวรครบแล้วหรือ ชื่ออะไร
ปวัตตินีของเธอชื่ออะไร รวม 24 อย่าง แล้วให้อุปสมบท
ต่อมา อุปสัมปทาเปกขายังไม่ได้สอนซ้อม
เกิดความละอายท่ามกลางสงฆ์ ทรงอนุญาตให้ภิกษุณี
สอนซ้อมสตรีอุปสัมปทาเปกขาก่อน
ทรงอนุญาตให้ถืออุปัชฌาย์ในเบื้องต้น
ต่อจากนั้นจึงบอกสังฆาฏิ อุตตราสงค์
อันตราวาสก ผ้ารัดถัน ผ้าอาบน้ำแล้ว
บอกให้ยืน ณ มุมหนึ่งที่ห่างออกไป
ต่อมา ภิกษุณีโง่เขลารูปหนึ่งทำหน้าที่สอนซ้อม
พระผู้มีพระภาคทรงกำหนดว่าภิกษุณีไม่ได้รับแต่งตั้ง
ไม่ควรสอนซ้อมถามอันตรายิกธรรม
ภิกษุณีอุปสมบทในภิกษุสงฆ์ฝ่ายเดียว
ต้องอุปสมบทในภิกษุสงฆ์อื่นอีก

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 7 หน้า :371 }