เมนู

พระวินัยปืฎก จูฬวรรค [10. ภิกขุนี ขันธกะ] รวมเรื่องที่มีในภิกขุนีขันธกะ
ต่อมา ภิกษุทั้งหลายเข้าไปที่สำนักภิกษุณี
ยกปาติโมกข์ขึ้นแสดง พระผู้มีพระภาคทรงห้าม
ต่อมาภิกษุณีทั้งหลายไม่รู้วิธีทำคืนอาบัติ
ทรงอนุญาตให้ภิกษุอธิบายให้ภิกษุณีทราบได้
ต่อมา ภิกษุณีไม่ทำ ทรงอนุญาตให้ภิกษุทั้งหลาย
บอกภิกษุณีเกี่ยวกับวิธีทำคืนอาบัติ วิธีรับอาบัติ
ทรงอนุญาตให้ภิกษุทำกรรมแก่ภิกษุณี
คนทั้งหลายตำหนิ ทรงอนุญาตให้ภิกษุณีทำแก่ภิกษุณีด้วยกัน
ต่อมา ภิกษุณีทั้งหลายทะเลาะวิวาทกัน
พระผู้มีพระภาคทรงอนุญาตให้ภิกษุมอบการลงโทษ
ของภิกษุณีให้แก่ภิกษุณี ภิกษุณีอันเตวาสินีของ
ภิกษุณีอุบลวรรณาเรียนวินัยจนสติฟั่นเฟือน
พวกภิกษุฉัพพัคคีย์ใช้น้ำโคลนรดภิกษุณีทั้งหลาย
พวกภิกษุณีฉัพพัคคีย์ใช้น้ำโคลนรดภิกษุทั้งหลายในกรุงสาวัตถี
ด้วยหวังจะให้ฝ่ายตรงข้ามรัก
พระผู้มีพระภาคทรงให้ภิกษุณีประกาศว่าภิกษุนั้นไม่ควรไหว้
ต่อมา พวกภิกษุฉัพพัคคีย์เปิดกาย เปิดขาอ่อน
เปิดองคชาตอวดภิกษุณี พูดเกี้ยวภิกษุณี
พูดชักชวนบุรุษมาคบหาภิกษุณี ภิกษุนั้นภิกษุณีไม่ควรไหว้
พวกภิกษุณีฉัพพัคคีย์ก็ทำเช่นเดียวกัน
พระผู้มีพระภาคทรงอนุญาตให้ลงทัณฑกรรม
โดยการห้ามปรามภิกษุและภิกษุณีผู้ทำเช่นนั้น
เมื่อห้ามปรามไม่เชื่อ พึงงดโอวาท ไม่ควรทำอุโบสถกับภิกษุ
ภิกษุณีผู้ถูกงดโอวาท
ต่อมา พระอุทายีงดโอวาทแล้วหลีกไป
พระผู้มีพระภาคทรงห้ามทำเช่นนั้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 7 หน้า :368 }


พระวินัยปืฎก จูฬวรรค [10. ภิกขุนี ขันธกะ] รวมเรื่องที่มีในภิกขุนีขันธกะ
ทรงห้ามภิกษุโง่เขลางดโอวาท
ทรงห้ามงดโอวาทด้วยเรื่องที่ไม่สมควร
ทรงห้ามงดโอวาทโดยไม่ให้คำวินิจฉัย
ทรงกำหนดให้ภิกษุณีสงฆ์ต้องไปรับโอวาท
ทรงห้ามภิกษุณี 5 รูปไปรับโอวาท
ทรงอนุญาตให้ภิกษุณี 2-3 รูปไปรับโอวาท
ต่อมา ภิกษุรูปหนึ่งไม่รับให้โอวาท
พระผู้มีพระภาคทรงกำหนดให้ภิกษุต้องรับให้โอวาท
ทรงกำหนดข้อยกเว้นไว้ว่า ภิกษุโง่เขลา
ภิกษุอาพาธ ภิกษุผู้เตรียมจะเดินทาง
ไม่ต้องรับให้โอวาท แต่ภิกษุผู้อยู่ป่าตัองรับให้โอวาท
ทรงกำหนดว่า ภิกษุทั้งหลายให้โอวาทแล้วต้องบอก
รับให้โอวาทแล้วต้องกลับมาบอก
ต่อมา ภิกษุณีใช้ประคดเอวผืนยาวรัดสีข้าง
ใช้แผ่นไม้สานแผ่นหนัง ผ้าขาว ช้องผ้า เกลียวผ้า
ผ้าผืนเล็ก ช้องผ้าผืนเล็ก เกลียวผ้าผืนเล็ก ช้องถักด้วยด้าย
เกลียวด้ายรัดสีข้าง ใช้กระดูกแข้งโค สีตะโพก
ใช้ไม้มีสัณฐานดุจคางโคนวดตะโพก นวดมือ
นวดหลังมือนวดเท้า นวดหลังเท้า นวดขาอ่อน
นวดหน้า นวดริมฝีปาก
ต่อมา พวกภิกษุณีฉัพพัคคีย์ทาหน้า ถูหน้า
ผัดหน้า ใช้มโนศิลาเจิมหน้า ย้อมตัว ย้อมหน้า
ย้อมทั้งตัวทั้งหน้า ทั้งสองอย่าง แต้มหน้า ทาแก้ม
เล่นหูเล่นตา ยืนแอบที่ประตู ให้ผู้อื่นฟ้อนรำ
ตั้งสำนักหญิงแพศยา ตั้งร้านขายสุรา ขายเนื้อ
ออกร้านขายของเบ็ดเตล็ด ประกอบการค้ากำไร

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 7 หน้า :369 }