เมนู

พระวินัยปืฎก จูฬวรรค [10. ภิกขุนี ขันธกะ] 3. ตติยภาณวาร
เรื่องภิกษุณีใช้จุรณสรงน้ำ
[436] สมัยนั้น ภิกษุณีทั้งหลายใช้จุรณสรงน้ำ คนทั้งหลายตำหนิ ประณาม
โพนทะนาว่า “ฯลฯ เหมือนหญิงคฤหัสถ์ผู้บริโภคกาม”
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีไม่พึงใช้จุรณสรงน้ำ รูปใดใช้
ต้องอาบัติทุกกฏ ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ใช้รำข้าวและดินเหนียว”
สมัยนั้น ภิกษุณีทั้งหลายใช้ดินเหนียวอบกลิ่นสรงน้ำ คนทั้งหลายตำหนิ ประณาม
โพนทะนาว่า “ฯลฯ เหมือนหญิงคฤหัสถ์ผู้บริโภคกาม”
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีไม่พึงใช้ดินเหนียวที่อบกลิ่น
สรงน้ำ รูปใดใช้ ต้องอาบัติทุกกฏ ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตดินเหนียวธรรมดา”
สมัยนั้น ภิกษุณีทั้งหลายสรงน้ำในเรือนไฟ เกิดชุลมุน ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่อง
นี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีไม่พึงสรงน้ำในเรือนไฟ รูปใด
สรง ต้องอาบัติทุกกฏ”
สมัยนั้น ภิกษุณีทั้งหลายสรงน้ำทวนกระแส ยินดีสัมผัสแห่งสายน้ำ ภิกษุทั้งหลาย
จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีไม่พึงสรงน้ำทวนกระแส รูปใด
สรง ต้องอาบัติทุกกฏ”
สมัยนั้น ภิกษุณีทั้งหลายสรงน้ำในที่ไม่ใช่ท่าน้ำ ถูกพวกนักเลงทำมิดีมิร้าย
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีไม่พึงสรงน้ำในที่ไม่ใช่ท่าน้ำ
รูปใดสรง ต้องอาบัติทุกกฏ”


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 7 หน้า :365 }