เมนู

พระวินัยปืฎก จูฬวรรค [9. ปาติโมกขัฎฐปน ขันธกะ] 5. ธัมมิกาธัมมิกปาติโมกขัฎฐปนะ
การงดปาติโมกข์ชอบธรรม 2 อย่าง คือ
1. งดปาติโมกข์เพราะสีลวิบัติมีมูล
2. งดปาติโมกข์เพราะอาจารวิบัติมีมูล
นี้เป็นการงดปาติโมกข์ชอบธรรม 2 อย่าง
การงดปาติโมกข์ไม่ชอบธรรม 3 อย่าง คือ
1. งดปาติโมกข์เพราะสีลวิบัติไม่มีมูล
2. งดปาติโมกข์เพราะอาจารวิบัติไม่มีมูล
3. งดปาติโมกข์เพราะทิฏฐิวิบัติไม่มีมูล
นี้เป็นการงดปาติโมกข์ไม่ชอบธรรม 3 อย่าง
การงดปาติโมกข์ชอบธรรม 3 อย่าง คือ
1. งดปาติโมกข์เพราะสีลวิบัติมีมูล
2. งดปาติโมกข์เพราะอาจารวิบัติมีมูล
3. งดปาติโมกข์เพราะทิฏฐิวิบัติมีมูล
นี้เป็นการงดปาติโมกข์ชอบธรรม 3 อย่าง
การงดปาติโมกข์ไม่ชอบธรรม 4 อย่าง คือ
1. งดปาติโมกข์เพราะสีลวิบัติไม่มีมูล
2. งดปาติโมกข์เพราะอาจารวิบัติไม่มีมูล
3. งดปาติโมกข์เพราะทิฏฐิวิบัติไม่มีมูล
4. งดปาติโมกข์เพราะอาชีววิบัติไม่มีมูล
นี้เป็นการงดปาติโมกข์ไม่ชอบธรรม 4 อย่าง
การงดปาติโมกข์ชอบธรรม 4 อย่าง คือ
1. งดปาติโมกข์เพราะสีลวิบัติมีมูล
2. งดปาติโมกข์เพราะอาจารวิบัติมีมูล

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 7 หน้า :288 }


พระวินัยปืฎก จูฬวรรค [9. ปาติโมกขัฎฐปน ขันธกะ] 5. ธัมมิกาธัมมิกปาติโมกขัฎฐปนะ
3. งดปาติโมกข์เพราะทิฏฐิวิบัติมีมูล
4. งดปาติโมกข์เพราะอาชีววิบัติมีมูล
นี้เป็นการงดปาติโมกข์ชอบธรรม 4 อย่าง
การงดปาติโมกข์ไม่ชอบธรรม 5 อย่าง คือ
1. งดปาติโมกข์เพราะอาบัติปาราชิกไม่มีมูล
2. งดปาติโมกข์เพราะอาบัติสังฆาทิเสสไม่มีมูล
3. งดปาติโมกข์เพราะอาบัติปาจิตตีย์ไม่มีมูล
4. งดปาติโมกข์เพราะอาบัติปาฏิเทสนียะไม่มีมูล
5. งดปาติโมกข์เพราะอาบัติทุกกฏไม่มีมูล
นี้เป็นการงดปาติโมกข์ไม่ชอบธรรม 5 อย่าง
การงดปาติโมกข์ชอบธรรม 5 อย่าง คือ
1. งดปาติโมกข์เพราะอาบัติปาราชิกมีมูล
2. งดปาติโมกข์เพราะอาบัติสังฆาทิเสสมีมูล
3. งดปาติโมกข์เพราะอาบัติปาจิตตีย์มีมูล
4. งดปาติโมกข์เพราะอาบัติปาฏิเทสนียะมีมูล
5. งดปาติโมกข์เพราะอาบัติทุกกฏมีมูล
นี้เป็นการงดปาติโมกข์ชอบธรรม 5 อย่าง
การงดปาติโมกข์ไม่ชอบธรรม 6 อย่าง คือ
1. งดปาติโมกข์เพราะสีลวิบัติไม่มีมูลที่ภิกษุไม่ได้ทำ
2. งดปาติโมกข์เพราะสีลวิบัติไม่มีมูลที่ภิกษุทำ
3. งดปาติโมกข์เพราะอาจารวิบัติไม่มีมูลที่ภิกษุไม่ได้ทำ
4. งดปาติโมกข์เพราะอาจารวิบัติไม่มีมูลที่ภิกษุทำ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 7 หน้า :289 }