เมนู

พระวินัยปืฎก จูฬวรรค [9. ปาติโมกขัฎฐปน ขันธกะ] 1. ปาติโมกขุทเทสยาจนะ
9. ปาติโมกขัฏฐปนขันธกะ
1. ปาติโมกขุทเทสยาจนะ
ว่าด้วยการขอให้ยกปาติโมกข์ขึ้นแสดง
[383] สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ปราสาทในปุพพารามของ
นางวิสาขามิคารมาตา ครั้งนั้น ในวันอุโบสถ 15 ค่ำนั้น พระผู้มีพระภาคประทับนั่ง
มีภิกษุสงฆ์ห้อมล้อม
ครั้งนั้น เมื่อราตรีผ่านไปแล้ว ปฐมยามผ่านไปแล้ว ท่านพระอานนท์ลุกจาก
อาสนะ ห่มอุตตราสงค์เฉวียงบ่าข้างหนึ่ง ประนมมือไปทางพระผู้มีพระภาค ได้กราบ
ทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า “พระพุทธเจ้าข้า ราตรีผ่านไปแล้ว ปฐมยามผ่านไปแล้ว
ภิกษุสงฆ์นั่งนานแล้วพระผู้มีพระภาคโปรดยกปาติโมกข์ขึ้นแสดงแก่ภิกษุทั้งหลายเถิด”
เมื่อท่านพระอานนท์กราบทูลอย่างนี้ พระผู้มีพระภาคทรงนิ่ง
แม้ครั้งที่ 2 เมื่อราตรีผ่านไปแล้ว เมื่อมัชฌิมยามผ่านไปแล้ว ท่านพระอานนท์
ลุกจากอาสนะ ห่มอุตตราสงค์เฉวียงบ่าข้างหนึ่ง ประนมมือไปทางพระผู้มีพระภาค
ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า “พระพุทธเจ้าข้า ราตรีผ่านไปแล้ว มัชฌิมยาม
ผ่านไปแล้ว ภิกษุสงฆ์นั่งนานแล้ว พระผู้มีพระภาคโปรดยกปาติโมกข์ขึ้นแสดงแก่
ภิกษุทั้งหลายเถิด”
แม้ครั้งที่ 2 พระผู้มีพระภาคก็ทรงนิ่ง ฯลฯ
แม้ครั้งที่ 3 เมื่อราตรีผ่านไปแล้ว เมื่อปัจฉิมยามผ่านไปแล้ว ยามรุ่งอรุณ ท่าน
พระอานนท์ลุกจากอาสนะ ห่มอุตตราสงค์เฉวียงบ่าข้างหนึ่งประนมมือไปทางพระผู้
มีพระภาค ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า “พระพุทธเจ้าข้า ราตรีผ่านไปแล้ว
ปัจฉิมยามผ่านไป ภิกษุสงฆ์นั่งนานแล้ว พระผู้มีพระภาคโปรดยกปาติโมกข์ขึ้นแสดง
แก่ภิกษุทั้งหลายเถิด”

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 7 หน้า :278 }


พระวินัยปืฎก จูฬวรรค [9. ปาติโมกขัฎฐปน ขันธกะ] 1. ปาติโมกขุทเทสยาจนะ
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “อานนท์ บริษัทไม่บริสุทธิ์”
ลำดับนั้น ท่านพระมหาโมคคัลลานะได้มีความคิดดังนี้ว่า “พระผู้มีพระภาค
ตรัสว่า บริษัทไม่บริสุทธิ์ ทรงหมายถึงใครกัน” ลำดับนั้น ท่านพระมหาโมคคัลลานะ
มนสิการกำหนดจิตภิกษุสงฆ์ที่มีทั้งหมดด้วยจิต(ของตน) ได้เห็นบุคคลนั้นผู้ทุศีล มี
บาปธรรม ประพฤติไม่เรียบร้อย น่ารังเกียจ ปกปิดพฤติกรรม ไม่ใช่สมณะแต่
ปฏิญญาว่าเป็นสมณะ ไม่ใช่พรหมจารีแต่ปฏิญญาว่าเป็นพรหมจารี เน่าใน เปียกชุ่ม
เป็นดุจหยากเยื่อ นั่งอยู่ท่ามกลางภิกษุสงฆ์ ครั้นแล้วจึงเข้าไปหาบุคคลนั้น แล้วได้
กล่าวกับบุคคลนั้นดังนี้ว่า “ท่านจงลุกขึ้น พระผู้มีพระภาคทรงเห็นท่านแล้ว ท่าน
ไม่มีสังวาสกับภิกษุทั้งหลาย” เมื่อท่านพระมหาโมคคัลลานะแม้กล่าวอย่างนี้ บุคคลนั้น
ก็ยังนิ่ง
แม้ครั้งที่ 2 ท่านพระมหาโมคคัลลานะก็ได้กล่าวกับบุคคลนั้นดังนี้ว่า “ท่าน
จงลุกขึ้น พระผู้มีพระภาคทรงเห็นท่าน ท่านไม่มีสังวาสกับภิกษุทั้งหลาย”
แม้ครั้งที่ 2 บุคคลนั้นก็ยังนิ่ง
แม้ครั้งที่ 3 ท่านพระมหาโมคคัลลานะก็ได้กล่าวกับบุคคลนั้นดังนี้ว่า “ท่าน
จงลุกขึ้น พระผู้มีพระภาคทรงเห็นท่าน ท่านไม่มีสังวาสกับภิกษุทั้งหลาย”
แม้ครั้งที่ 3 บุคคลนั้นก็ยังนิ่ง
ลำดับนั้น ท่านพระมหาโมคคัลลานะจับแขนบุคคลนั้นฉุดให้ออกไปนอกซุ้มประตู
ใส่กลอนแล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มี
พระภาคดังนี้ว่า “ข้าพระพุทธเจ้าให้ผู้นั้นออกไปพ้นแล้ว บริษัทบริสุทธิ์แล้ว ขอพระ
ผู้มีพระภาคโปรดยกปาติโมกข์ขึ้นแสดงแก่ภิกษุทั้งหลายเถิด พระพุทธเจ้าข้า”
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “โมคคัลลานะ น่าอัศจรรย์จริง โมคคัลลานะ เป็นเรื่อง
ยังไม่เคยปรากฏ โมฆบุรุษรอจนกระทั่งถูกฉุดแขนออกไป”


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 7 หน้า :279 }