เมนู

พระวินัยปืฎก จูฬวรรค [7. สังฆเภท ขันธกะ] 3. ตติยภาณวาร
สัตถุศาสน์ พวกท่านจงจับสลากนี้ จงชอบใจสลากนี้’ อย่างนี้
จัดเป็นสังฆราชี แต่ไม่เป็นสังฆเภท
2. อุบาลี ฝ่ายหนึ่ง มีภิกษุ 2 รูป อีกฝ่ายหนึ่ง ก็มี 2 รูป รูปที่
5 ประกาศให้จับสลากว่า ‘นี้เป็นธรรม นี้เป็นวินัย นี้เป็นสัตถุศาสน์
พวกท่านจงจับสลากนี้ จงชอบใจสลากนี้’ อย่างนี้ก็จัดเป็นสังฆราชี
แต่ไม่เป็นสังฆเภท
3. อุบาลี ฝ่ายหนึ่ง มีภิกษุ 2 รูป อีกฝ่ายหนึ่งมี 3 รูป รูปที่ 6
ประกาศให้จับสลากว่า ‘นี้เป็นธรรม นี้เป็นวินัย นี้เป็นสัตถุศาสน์
พวกท่านจงจับสลากนี้ จงชอบใจสลากนี้’ อย่างนี้ก็จัดเป็นสังฆราชี
แต่ไม่เป็นสังฆเภท
4. อุบาลี ฝ่ายหนึ่ง มีภิกษุ 3 รูป อีกฝ่ายหนึ่งก็มี 3 รูป รูปที่ 7
ประกาศให้จับสลากว่า ‘นี้เป็นธรรม นี้เป็นวินัย นี้เป็นสัตถุศาสน์
พวกท่านจงจับสลากนี้ จงชอบใจสลากนี้’ อย่างนี้ก็จัดเป็นสังฆราชี
แต่ไม่เป็นสังฆเภท
5. อุบาลี ฝ่ายหนึ่ง มีภิกษุ 3 รูป อีกฝ่ายหนึ่งมี 4 รูป รูปที่ 8
ประกาศให้จับสลากว่า ‘นี้เป็นธรรม นี้เป็นวินัย นี้เป็นสัตถุศาสน์
พวกท่านจงจับสลากนี้ จงชอบใจสลากนี้’ อย่างนี้ก็จัดเป็นสังฆราชี
แต่ไม่เป็นสังฆเภท
6. อุบาลี ฝ่ายหนึ่ง มีภิกษุ 4 รูป อีกฝ่ายหนึ่งก็มี 4 รูป รูปที่ 9
ประกาศให้จับสลากว่า ‘นี้เป็นธรรม นี้เป็นวินัย นี้เป็นสัตถุศาสน์
พวกท่านจงจับสลากนี้ จงชอบใจสลากนี้’ อย่างนี้จัดเป็นทั้งสังฆราชี
และสังฆเภท
7. ภิกษุ 9 รูป หรือมากกว่า 9 รูป จัดเป็นทั้งสังฆราชีและสังฆเภท
อุบาลี ภิกษุณีทำลายสงฆ์ไม่ได้ ได้แต่พยายามทำลาย สิกขมานา
ทำลายสงฆ์ไม่ได้ ... สามเณรทำลายสงฆ์ไม่ได้ ... สามเณรี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 7 หน้า :213 }