พระวินัยปืฎก จูฬวรรค [7. สังฆเภท ขันธกะ] 2. ทุติยภาณวาร
บรรดาภิกษุผู้มักน้อย ฯลฯ จึงตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า ไฉนพระเทวทัต
พร้อมกับบริษัทจึงเที่ยวออกปากขอภัตตาหารในตระกูลทั้งหลายมาฉันเล่า จึงนำเรื่อง
นี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ ฯลฯ
พระผู้มีพระภาคทรงสอบถามพระเทวทัตว่า เทวทัต ทราบว่า เธอพร้อมกับ
บริษัทเที่ยวออกปากขอภัตตาหารในตระกูลทั้งหลายมาฉันจริงหรือ
พระเทวทัตทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตำหนิ ฯลฯ ครั้นทรงตำหนิแล้ว ฯลฯ ทรงแสดงธรรมีกถา
รับสั่งกับภิกษุทั้งหลายว่า ภิกษุทั้งหลาย ถ้าเช่นนั้น เราจะบัญญัติโภชนะที่คน 3 คน
พึงบริโภคในตระกูลทั้งหลายแก่ภิกษุทั้งหลาย โดยอาศัยอำนาจประโยชน์ 3 ประการ
คือ
1. เพื่อข่มบุคคลผู้เก้อยาก
2. เพื่อความอยู่ผาสุกแห่งเหล่าภิกษุผู้มีศีลดีงาม
3. เพื่ออนุเคราะห์ตระกูล
ด้วยหวังว่า ภิกษุที่ปรารถนาชั่วอย่าอาศัยพรรคพวกทำสงฆ์ให้แตกกัน (ภิกษุ)
ฉันคณโภชนะ พึงปรับอาบัติตามธรรม1
ครั้งนั้น พระเทวทัตเข้าไปหาพระโกกาลิกะ พระกฏโมรกติสสกะ พระขัณฑเทวี
บุตร พระสมุททัตตะ ถึงที่อยู่ ครั้นถึงแล้วได้กล่าวกับท่านเหล่านั้นดังนี้ว่า มาเถิด
ท่านทั้งหลาย พวกเราจะทำลายสงฆ์ ทำลายจักร2ของพระสมณโคดม
เมื่อพระเทวทัตกล่าวอย่างนี้ พระโกกาลิกะได้กล่าวกับพระเทวทัตดังนี้ว่า
ท่าน พระสมณโคดมมีฤทธานุภาพมาก พวกเราจะทำลายสงฆ์ ทำลายจักรของ
พระสมณโคดม ได้อย่างไร
เชิงอรรถ :
1 พึงปรับอาบัติตามธรรม คือ พึงปรับอาบัติปาจิตตีย์ เพราะฉันคณโภชนะ ตามความแห่งสิกขาบทที่ 2
แห่งโภชนวรรคที่ 4 (ดู วิ.มหา. (แปล) 2/209-217/370-376)
2 ทำลายสงฆ์ คือทำสงฆ์ให้แตกจากกัน
ทำลายจักร คือทำลายหลักคำสอน (วิ.อ. 2/410/108, วชิร.ฏีกา 343/680)