พระวินัยปืฎก จูฬวรรค [6. เสนาสน ขันธกะ] 2. ทุติยภาณวาร
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ ฯลฯ พระผู้
มีพระภาครับสั่งว่า ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงบังคับภิกษุเป็นไข้ให้ลุกขึ้น รูปใดบังคับ
ให้ลุกขึ้น ต้องอาบัติทุกกฏ
สมัยนั้น พวกภิกษุฉัพพัคคีย์กล่าวว่า พวกกระผมเป็นไข้ไม่ควรที่จะถูกไล่ให้
ลุกขึ้น แล้วยึดเอาที่นอนดี ๆ ฯลฯ
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตเพื่อให้ที่นอนที่เหมาะสม
แก่ภิกษุเป็นไข้
ต่อมา พวกภิกษุฉัพพัคคีย์ก็กีดกันอาสนะเอาไว้โดยอ้างเลศ ภิกษุทั้งหลายจึง
นำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงกีดกันเสนาสนะโดยอ้างเลศ
รูปใดกีดกัน ต้องอาบัติทุกกฏ
เรื่องอนุญาตให้ภิกษุถือเสนาสนะ
สมัยนั้น พวกภิกษุสัตตรสวัคคีย์(พวกภิกษุที่อยู่ในกลุ่มภิกษุ 17 รูป)ซ่อม
แซมวิหารหลังใหญ่แห่งหนึ่งอยู่สุดเขตอาราม ด้วยหมายใจว่า พวกเราจะจำพรรษา
ในที่นี้
พวกภิกษุฉัพพัคคีย์เห็นพวกภิกษุสัตตรสวัคคีย์กำลังซ่อมแซมวิหาร ครั้นเห็น
แล้วจึงกล่าวกันอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลาย พวกภิกษุสัตตรสวัคคีย์เหล่านี้กำลังซ่อม
แซมวิหาร มาเถิด พวกเราช่วยกันขับไล่พวกภิกษุสัตตรสวัคคีย์นั้นออกไป
ภิกษุบางพวกกล่าวอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลาย โปรดคอยจนกว่าพวกภิกษุ
สัตตรสวัคคีย์นั้นจะซ่อมวิหารเสร็จแล้วพวกเราค่อยไล่ออกไป
ต่อมา พวกภิกษุฉัพพัคคีย์ได้กล่าวกับพวกภิกษุสัตตรสวัคคีย์ดังนี้ว่า พวก
ท่านจงย้ายออกไป วิหารเป็นของพวกเรา
พระวินัยปืฎก จูฬวรรค [6. เสนาสน ขันธกะ] 2. ทุติยภาณวาร
พวกภิกษุสัตตรสวัคคีย์กล่าวว่า ท่านทั้งหลาย พวกท่านควรจะบอกก่อนมิใช่
หรือ พวกเราจะได้ซ่อมแซมวิหารหลังอื่น
พวกภิกษุฉัพพัคคีย์ตอบว่า ท่านทั้งหลาย วิหารเป็นของสงฆ์มิใช่หรือ
พวกภิกษุสัตตรสวัคคีย์ตอบว่า ใช่ ท่านทั้งหลาย วิหารเป็นของสงฆ์
พวกภิกษุฉัพพัคคีย์กล่าวว่า พวกท่านจงย้ายออกไป วิหารเป็นของพวกเรา
พวกภิกษุสัตตรสวัคคีย์กล่าวว่า วิหารใหญ่ พวกท่านก็อยู่ได้ พวกเราก็อยู่ได้
พวกภิกษุฉัพพัคคีย์กล่าวว่า พวกท่านจงย้ายออกไป วิหารเป็นของพวกเรา
แล้วโกรธ ไม่พอใจ จับคอฉุดลากออกไป
พวกภิกษุสัตตรสวัคคีย์เมื่อถูกพวกภิกษุฉัพพัคคีย์ฉุดลากออกไปก็ร้องไห้
ภิกษุทั้งหลายถามว่า ท่านทั้งหลาย พวกท่านร้องไห้ทำไม
พวกภิกษุสัตตรสวัคคีย์ตอบว่า ท่านทั้งหลาย พวกภิกษุฉัพพัคคีย์เหล่านี้โกรธ
ไม่พอใจฉุดลากพวกกระผมออกจากวิหารของสงฆ์
บรรดาภิกษุผู้มักน้อยสันโดษ ตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า ไฉนพวกภิกษุ
ฉัพพัคคีย์จึงโกรธไม่พอใจ ฉุดลากภิกษุทั้งหลายออกจากวิหารของสงฆ์เล่า
ครั้งนั้นแล ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาคทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ภิกษุทั้งหลาย ทราบว่าพวก
ภิกษุฉัพพัคคีย์โกรธไม่พอใจ ฉุดลากภิกษุทั้งหลายออกจากวิหารของสงฆ์ จริงหรือ
ภิกษุทั้งหลายทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงตำหนิ ฯลฯ ครั้นทรงตำหนิแล้ว ฯลฯ ทรงแสดง
ธรรมีกถารับสั่งกับภิกษุทั้งหลายว่า ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุโกรธไม่พอใจ ไม่พึงฉุดลาก
ภิกษุออกจากวิหารของสงฆ์ รูปใดฉุดลาก พึงปรับอาบัติตามธรรม1 ภิกษุทั้งหลาย
เราอนุญาตให้ภิกษุถือเสนาสนะ
เชิงอรรถ :
1 พึงปรับอาบัติตามธรรม หมายถึงพึงปรับอาบัติปาจิตตีย์ตามความแห่งสิกขาบทที่ 7 แห่งภูตคามวรรค
(วิ.มหา. แปล 2/124-125/302-303)