พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [1. กัมมขันธกะ] 4. ปฏิสารณียกรรม
ครั้นเขาทราบว่าพระเถระรับคำนิมนต์แล้ว ได้ลุกขึ้นไหว้พระเถระทั้งหลาย ทำ
ประทักษิณแล้วเข้าไปหาท่านพระสุธรรม ไหว้แล้วยืน ณ ที่สมควร เรียนท่านพระ
สุธรรมว่า ท่านผู้เจริญ นิมนต์รับภัตตาหารของกระผม เพื่อเจริญกุศลในวันรุ่งขึ้น
พร้อมกับพระเถระทั้งหลายเถิด
ลำดับนั้น พระสุธรรมคิดว่า แต่ก่อนจิตตคหบดีนี้เมื่อต้องการจะนิมนต์สงฆ์
คณะ หรือบุคคลก็ต้องบอกเราก่อนทุกครั้ง แต่เวลานี้กลับไม่บอกเราก่อนแล้วไปนิมนต์
พระเถระทั้งหลาย บัดนี้จิตตคหบดีคงจะโกรธไม่สนใจใยดี เบื่อหน่ายเราเสียแล้ว จึง
ตอบว่า อย่าเลย จิตตคหบดี อาตมาไม่รับนิมนต์
แม้ครั้งที่ 2 จิตตคหบดี ก็กราบเรียนท่านพระสุธรรมดังนี้ว่า ท่านผู้เจริญ นิมนต์
รับภัตตาหารของกระผม เพื่อเจริญกุศลในวันรุ่งขึ้นพร้อมกับพระเถระทั้งหลายเถิด
ท่านพระสุธรรมตอบว่า อย่าเลย จิตตคหบดี อาตมาไม่รับนิมนต์
แม้ครั้งที่ 3 จิตตคหบดี ก็กราบเรียนท่านพระสุธรรมดังนี้ว่า ท่านผู้เจริญ นิมนต์
รับภัตตาหารของกระผม เพื่อเจริญกุศลในวันรุ่งขึ้นพร้อมกับพระเถระทั้งหลายเถิด
ท่านพระสุธรรมตอบว่า อย่าเลย จิตตคหบดี อาตมาไม่รับนิมนต์
เวลานั้น จิตตคหบดีคิดว่า พระสุธรรมจะรับหรือไม่รับนิมนต์ก็ทำอะไรเราไม่ได้
ไหว้พระสุธรรมแล้วทำประทักษิณจากไป
พระสุธรรมวิวาทกับจิตตคหบดี
[34] ครั้นล่วงราตรีนั้นไป จิตตคหบดีให้จัดเตรียมของเคี้ยวของฉันอันประณีต
ไว้ถวายภิกษุผู้เถระทั้งหลาย สมัยนั้น ท่านพระสุธรรมคิดว่า ถ้ากระไร เราควร
ตรวจดูของเคี้ยวของฉันที่จิตตคหบดีเตรียมถวายภิกษุผู้เถระทั้งหลาย พอถึงเวลาเช้า
จึงนุ่งอันตรวาสก ถือบาตรและจีวรเข้าไปนิเวศน์ของจิตตคหบดี นั่งบนอาสนะที่เขา
จัดถวาย