เมนู

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [1. กัมมขันธกะ] 3. ปัพพาชนียกรรม
หมวดที่ 10
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์เมื่อมุ่งหวัง พึงลงปัพพาชนียกรรมแก่ภิกษุอื่นอีก 3 รูป คือ
1. รูปหนึ่งกล่าวติเตียนพระพุทธเจ้า 2. รูปหนึ่งกล่าวติเตียนพระธรรม
3. รูปหนึ่งกล่าวติเตียนพระสงฆ์
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์เมื่อมุ่งหวัง พึงลงปัพพาชนียกรรมแก่ภิกษุ 3 รูปเหล่านี้
แล (10)

หมวดที่ 11
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์เมื่อมุ่งหวัง พึงลงปัพพาชนียกรรมแก่ภิกษุอื่นอีก 3 รูป คือ
1. รูปหนึ่งเล่นคะนองกาย 2. รูปหนึ่งเล่นคะนองวาจา
3. รูปหนึ่งเล่นคะนองทั้งกายและวาจา
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์เมื่อมุ่งหวัง พึงลงปัพพาชนียกรรมแก่ภิกษุ 3 รูปเหล่านี้
แล (11)

หมวดที่ 12
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์เมื่อมุ่งหวัง พึงลงปัพพาชนียกรรมแก่ภิกษุอื่นอีก 3 รูป
คือ
1. รูปหนึ่งประพฤติไม่สมควรทางกาย
2. รูปหนึ่งประพฤติไม่สมควรทางวาจา
3. รูปหนึ่งประพฤติไม่สมควรทั้งทางกายและวาจา
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์เมื่อมุ่งหวัง พึงลงปัพพาชนียกรรมแก่ภิกษุ 3 รูปเหล่านี้
แล (12)

หมวดที่ 13
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์เมื่อมุ่งหวัง พึงลงปัพพาชนียกรรมแก่ภิกษุอื่นอีก 3 รูป คือ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :58 }


พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [1. กัมมขันธกะ] 3. ปัพพาชนียกรรม
1. รูปหนึ่งทำลายพระบัญญัติทางกาย
2. รูปหนึ่งทำลายพระบัญญัติทางวาจา
3. รูปหนึ่งทำลายพระบัญญัติทั้งทางกายและวาจา
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์เมื่อมุ่งหวัง พึงลงปัพพาชนียกรรมแก่ภิกษุ 3 รูปเหล่านี้
แล (13)

หมวดที่ 14
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์เมื่อมุ่งหวัง พึงลงปัพพาชนียกรรมแก่ภิกษุอื่นอีก 3 รูป
คือ
1. รูปหนึ่งประกอบมิจฉาชีพทางกาย
2. รูปหนึ่งประกอบมิจฉาชีพทางวาจา
3. รูปหนึ่งประกอบมิจฉาชีพทั้งทางกายและวาจา
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์เมื่อมุ่งหวัง พึงลงปัพพาชนียกรรมแก่ภิกษุ 3 รูปเหล่านี้
แล (14)
อากังขมานจุททสกะ จบ

อัฏฐารสวัตตะ
ว่าด้วยวัตร 18 ข้อในปัพพาชนียกรรม
[28] ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ถูกสงฆ์ลงปัพพาชนียกรรมพึงประพฤติชอบ การ
ประพฤติชอบในเรื่องนั้น ดังนี้

1. ไม่พึงให้อุปสมบท 2. ไม่พึงให้นิสัย
3. ไม่พึงใช้สามเณรอุปัฏฐาก 4. ไม่พึงรับแต่งตั้งเป็นผู้สั่งสอนภิกษุณี
5. แม้ได้รับแต่งตั้งแล้วก็ไม่พึง 6. ไม่พึงต้องอาบัติที่เป็นเหตุให้ถูกสงฆ์
สั่งสอนภิกษุณี ลงปัพพาชนียกรรมอีก
7. ไม่พึงต้องอาบัติอื่นทำนองเดียวกัน 8. ไม่พึงต้องอาบัติที่เลวทรามกว่านั้น


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :59 }