เมนู

พระวินัยปิฎก จูฬรรค [4. สมถขันธกะ] 9. อธิกรณวูปสมนสมถะ
อนึ่ง ความพร้อมหน้าบุคคล ในสัมมุขาวินัยนั้นอย่างไร คือ ผู้แสดงกับผู้รับ
แสดงทั้งสองอยู่พร้อมหน้ากัน นี้ชื่อว่า ความพร้อมหน้าบุคคลในสัมมุขาวินัยนั้น
ในปฏิญญาตกรณะนั้น มีอะไรบ้าง
มีกิริยา ความกระทำ ความเข้าไป ความเข้าไปเฉพาะ ความรับรอง ความ
ไม่คัดค้านกรรมคือปฏิญาตกรณะอันใด นี้มีในปฏิญญาตกรณะนั้น
ภิกษุทั้งหลาย ถ้าอธิกรณ์ระงับแล้วอย่างนี้ ผู้รับรื้อฟื้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ที่รื้อฟื้น ถ้าได้การแสดงนั้นอย่างนี้ นั่นเป็นความดี หากไม่ได้ ภิกษุนั้นพึงเข้าไปหา
ภิกษุมากรูปด้วยกัน ห่มอุตตราสงค์เฉวียงบ่าข้างหนึ่ง กราบเท้าภิกษุผู้แก่พรรษา
ทั้งหลาย นั่งกระโหย่ง ประนมมือ แล้วกล่าวอย่างนี้ว่า “ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าต้อง
อาบัติชื่อนี้ ข้าพเจ้าแสดงคืนอาบัตินั้น”
ภิกษุผู้ฉลาดสามารถพึงประกาศให้ภิกษุพวกนั้นทราบด้วยญัตติว่า “ขอท่าน
ทั้งหลายจงฟังข้าพเจ้า ภิกษุชื่อนี้รูปนี้ ระลึก เปิดเผย ทำให้ตื้น แสดงอาบัติ ถ้า
ท่านทั้งหลายพร้อมกันแล้ว ข้าพเจ้าขอรับอาบัติของภิกษุชื่อนี้แล้ว พึงกล่าวว่า “ท่าน
เห็นหรือ”
ภิกษุผู้แสดงพึงกล่าวว่า “ขอรับ ผมเห็น”
ภิกษุผู้รับพึงกล่าวว่า “ท่านพึงสำรวมต่อไป”
ภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าอธิกรณ์ระงับแล้ว ระงับด้วยอะไร ด้วยสัมมุขาวินัย
กับปฏิญญาตกรณะ ในสัมมุขาวินัยนั้น มีอะไรบ้าง มีความพร้อมหน้าธรรม ความ
พร้อมหน้าวินัย ความพร้อมหน้าบุคคล ฯลฯ
อนึ่ง ความพร้อมหน้าบุคคล ในสัมมุขาวินัยนั้นอย่างไร คือ ผู้แสดงกับผู้รับ
แสดง ทั้งสองอยู่พร้อมหน้ากัน นี้ชื่อว่า ความพร้อมหน้าบุคคล ในสัมมุขาวินัยนั้น
ในปฏิญญาตกรณะนั้น มีอะไรบ้าง มีกิริยา ความกระทำ ความเข้าไป ความ
เข้าไปเฉพาะ ความรับรอง ความไม่คัดค้านกรรมคือปฏิญญาตกรณะอันใด นี้มีใน
ปฏิญญาตกรณะนั้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :364 }