เมนู

พระวินัยปิฎก จูฬรรค [4. สมถขันธกะ] 9. อธิกรณวูปสมนสมถะ
พระเถระนั้นช่วยระงับอธิกรณ์นั้นแล้ว เหมือนอย่างที่สงฆ์ในกรุงสาวัตถีระงับแล้ว
เหมือนอย่างที่พระเถระมากรูประงับแล้ว เหมือนอย่างที่พระเถระ 3 รูประงับแล้ว
และเหมือนอย่างที่พระเถระ 2 รูประงับแล้ว ตามวิธีที่ระงับด้วยดีแล้ว ฉะนั้น
ครั้งนั้น พวกภิกษุเหล่านั้นผู้ที่ไม่พอใจด้วยการระงับอธิกรณ์ของสงฆ์ในกรุง
สาวัตถี ไม่พอใจด้วยการระงับอธิกรณ์ของพระเถระมากรูป ไม่พอใจด้วยการระงับ
อธิกรณ์ของพระเถระ 3 รูป ไม่พอใจด้วยการระงับอธิกรณ์ของพระเถระ 2 รูป
ไม่พอใจด้วยการระงับอธิกรณ์ของพระเถระรูปเดียว แล้วกราบทูลเรื่องนั้นให้พระผู้มี
พระภาคทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย อธิกรณ์ที่พิจารณาแล้วนั้นเป็นอัน
สงบระงับ ระงับดีแล้ว ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตวิธีจับสลาก 3 อย่าง คือ ปกปิด
1 กระซิบบอก 1 เปิดเผย 1 ตามความยินยอมของภิกษุพวกนั้น”
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง วิธีจับสลากปกปิด เป็นไฉน
ภิกษุผู้ให้จับสลากนั้นพึงทำสลากให้มีสี และไม่มีสี แล้วเข้าไปหาภิกษุทีละรูป ๆ
แล้วแนะนำอย่างนี้ว่า “นี้สลากของผู้กล่าวอย่างนี้ นี้สลากของผู้กล่าวอย่างนี้ ท่าน
จงจับสลากที่ชอบใจ” เมื่อภิกษุนั้นจับแล้ว พึงแนะนำว่า “ท่านอย่าแสดงแก่ใคร ๆ”
ถ้ารู้ว่า “อธรรมวาทีมากกว่า” พึงบอกว่า “สลากจับไม่ดี” แล้วให้จับใหม่ ถ้ารู้ว่า
“ธรรมวาทีมากกว่า” พึงประกาศว่า “สลากจับดีแล้ว” ภิกษุทั้งหลาย วิธีจับสลาก
ปกปิดเป็นอย่างนี้แหละ
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง วิธีจับสลากกระซิบบอก เป็นไฉน
ภิกษุผู้ให้จับสลากนั้น พึงกระซิบบอกที่ใกล้หูของภิกษุแต่ละรูป ๆ ว่า “นี้
สลากของผู้กล่าวอย่างนี้ นี้สลากของผู้กล่าวอย่างนี้ ท่านจงจับสลากที่ชอบใจ” เมื่อ
ภิกษุนั้นจับแล้ว พึงแนะนำว่า “ท่านอย่าบอกแก่ใคร ๆ” ถ้ารู้ว่า “อธรรมวาทีมาก
กว่า” พึงบอกว่า “สลากจับไม่ดี” แล้วให้จับใหม่ ถ้ารู้ว่า “ธรรมวาทีมากกว่า” พึง
ประกาศว่า “สลากจับดีแล้ว” ภิกษุทั้งหลาย วิธีจับสลาก กระซิบบอกเป็นอย่าง
นี้แหละ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :355 }


พระวินัยปิฎก จูฬรรค [4. สมถขันธกะ] 9. อธิกรณวูปสมนสมถะ
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง วิธีจับสลากเปิดเผย เป็นไฉน
ถ้ารู้ว่าธรรมวาทีมากกว่า พึงให้จับสลากเปิดเผย อย่างแจ่มแจ้ง วิธีจับสลาก
เปิดเผยเป็นอย่างนี้แหละ
ภิกษุทั้งหลาย วิธีจับสลาก 3 อย่างนี้แล

สติวินัย
อนุวาทาธิกรณ์ระงับด้วยสมถะ 4 อย่าง
[236] อนุวาทาธิกรณ์ย่อมระงับด้วยสมถะเท่าไร
อนุวาทาธิกรณ์ย่อมระงับด้วยสมถะ 4 คือ (1) สัมมุขาวินัย (2) สติวินัย
(3) อมูฬหวินัย (4) ตัสสปาปิยสิกา
บางทีอนุวาทาธิกรณ์ไม่อาศัยสมถะ 2 อย่าง คือ (1) อมูฬหวินัย (2) ตัสส-
ปาปิยสิกา แต่ระงับด้วยสมถะ 2 อย่าง คือ (1) สัมมุขาวินัย (2) สติวินัย
บางทีพึงตกลงกันได้ สมจริงดังที่ตรัสไว้ว่า ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุ
ทั้งหลายใส่ความภิกษุด้วยสีลวิบัติที่ไม่มีมูล สงฆ์พึงให้สติวินัยแก่ภิกษุนั้น ผู้ถึงความ
ไพบูลย์แห่งสติอยู่แล้ว

วิธีให้สติวินัย และกรรมวาจา
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้สติวินัยอย่างนี้ คือ ภิกษุนั้นพึงเข้าไปหาสงฆ์ ห่ม-
อุตตราสงค์เฉวียงบ่าข้างหนึ่ง ฯลฯ กล่าวอย่างนี้ว่า “ท่านผู้เจริญ ภิกษุทั้งหลายใส่
ความข้าพเจ้าด้วยสีลวิบัติ ที่ไม่มีมูล ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้านั้นถึงความไพบูลย์แห่งสติ
แล้ว ขอสติวินัยกับสงฆ์”
พึงขอแม้ครั้งที่ 2 ฯลฯ
พึงขอแม้ครั้งที่ 3 ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :356 }