เมนู

พระวินัยปิฎก จูฬรรค [4. สมถขันธกะ] 9. อธิกรณวูปสมนสมถะ
ภิกษุทั้งหลาย ถ้าอธิกรณ์ระงับอย่างนี้ ผู้ทำรื้อฟื้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์ที่
รื้อฟื้น ผู้ให้ฉันทะติเตียน ต้องอาบัติปาจิตตีย์ที่ติเตียน
[230] ภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุเหล่านั้นกำลังไปสู่อาวาสนั้น ไม่สามารถระงับ
อธิกรณ์นั้นในระหว่างทางได้ พวกเธอไปถึงอาวาสนั้นแล้ว พึงกล่าวกับภิกษุที่อยู่
ประจำในอาวาสว่า “ท่านทั้งหลาย อธิกรณ์นี้เกิดแล้วอย่างนี้ อุบัติแล้วอย่างนี้
ขอโอกาสท่านทั้งหลาย จงระงับอธิกรณ์นี้โดยธรรม โดยวินัย และโดยสัตถุศาสน์
ตามวิถีทางที่อธิกรณ์นี้จะระงับด้วยดี”
ภิกษุทั้งหลาย ถ้าพวกภิกษุที่อยู่ประจำในอาวาสเป็นผู้แก่พรรษากว่า พวก
ภิกษุอาคันตุกะอ่อนพรรษากว่า พวกเธอพึงกล่าวกับภิกษุอาคันตุกะว่า “ท่านทั้งหลาย
ขอนิมนต์ท่านทั้งหลายจงรวมอยู่ ณ ที่สมควรสักครู่หนึ่ง ตลอดเวลาที่พวกผมจะ
ปรึกษากัน” แต่ถ้าพวกภิกษุที่อยู่ประจำในอาวาสเป็นผู้อ่อนกว่า พวกภิกษุอาคันตุกะ
แก่กว่า พวกเธอพึงกล่าวกับภิกษุอาคันตุกะว่า “ท่านทั้งหลาย ถ้าเช่นนั้น ขอท่าน
ทั้งหลายจงอยู่ ณ ที่นี้สักครู่หนึ่งจนกว่าพวกผมจะปรึกษากัน”
ภิกษุทั้งหลาย ถ้าพวกภิกษุที่อยู่ประจำในอาวาสกำลังปรึกษา คิดกันอย่างนี้ว่า
“พวกเราไม่สามารถระงับอธิกรณ์นี้โดยธรรม โดยวินัยและโดยสัตถุศาสน์” พวกเธอ
ไม่พึงรับอธิกรณ์นั้นไว้ แต่ถ้ากำลังปรึกษา คิดกันอย่างนี้ว่า “พวกเราสามารถ ระงับ
อธิกรณ์นี้ได้โดยธรรม โดยวินัย และโดยสัตถุศาสน์” พวกเธอพึงกล่าวกะพวก ภิกษ
ุอาคันตุกะว่า “ท่านทั้งหลาย ถ้าพวกท่านจักแจ้งอธิกรณ์นี้ตามที่เกิดแล้ว ตามที่อุบัติ
แล้วแก่พวกเรา เหมือนอย่างพวกเราจักระงับอธิกรณ์นี้โดยธรรม โดยวินัย และโดย
สัตถุศาสน์ ฉันใด อธิกรณ์นี้จักระงับด้วยดีฉันนั้น อย่างนี้พวกเราจึงจักรับ อธิกรณ์นี้
ถ้าพวกท่านจักไม่แจ้งอธิกรณ์นี้ตามที่เกิดแล้ว ตามที่อุบัติแล้วแก่พวกเรา เหมือนอย่าง
พวกเราจักระงับอธิกรณ์นี้โดยธรรม โดยวินัย และโดยสัตถุศาสน์ ฉันใด อธิกรณ์นี้
จักไม่ระงับด้วยดี ฉันนั้น พวกเราจักไม่รับอธิกรณ์นี้”

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :347 }


พระวินัยปิฎก จูฬรรค [4. สมถขันธกะ] 9. อธิกรณวูปสมนสมถะ
ภิกษุทั้งหลาย พวกภิกษุที่อยู่ประจำในอาวาสพึงรอบคอบอย่างนี้แล้วรับอธิกรณ์
นั้นไว้ พวกภิกษุอาคันตุกะนั้น พึงกล่าวกะพวกภิกษุที่อยู่ประจำในอาวาสว่า “พวกผม
จักแจ้งอธิกรณ์นี้ตามที่เกิดแล้ว ตามที่อุบัติแล้วแก่ท่านทั้งหลาย ถ้าท่านทั้งหลาย
สามารถระงับอธิกรณ์นี้โดยธรรม โดยวินัย และโดยสัตถุศาสน์ ระหว่างเวลาเท่านี้ได้
อธิกรณ์จักระงับด้วยดีเช่นว่านั้น อย่างนี้ พวกผมจักมอบอธิกรณ์แก่ท่านทั้งหลาย
ถ้าท่านทั้งหลายไม่สามารถระงับอธิกรณ์นี้โดยธรรม โดยวินัยและโดยสัตถุศาสน์
ระหว่างเวลาเท่านี้ได้ อธิกรณ์จักไม่ระงับด้วยดีเช่นว่านั้น พวกผมจักไม่มอบอธิกรณ์นี้
แก่ท่านทั้งหลาย พวกผมนี้แหละจักเป็นเจ้าของอธิกรณ์นี้”
ภิกษุทั้งหลาย พวกภิกษุอาคันตุกะพึงรอบคอบอย่างนี้ แล้วจึงมอบอธิกรณ์นั้น
แก่พวกภิกษุที่อยู่ประจำในอาวาส
ภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุเหล่านั้นสามารถระงับอธิกรณ์นั้นได้ นี้เรียกว่า อธิกรณ์
ระงับดีแล้ว
อธิกรณ์ระงับด้วยอะไร
ด้วยสัมมุขาวินัย
ในสัมมุขาวินัยนั้น มีอะไรบ้าง มีความพร้อมหน้าสงฆ์ ความพร้อมหน้าธรรม
ความพร้อมหน้าวินัย ความพร้อมหน้าบุคคล ฯลฯ
ภิกษุทั้งหลาย ถ้าอธิกรณ์ระงับแล้วอย่างนี้ ผู้ทำรื้อฟื้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ที่รื้อฟื้น ผู้ให้ฉันทะติเตียน ต้องอาบัติปาจิตตีย์ที่ติเตียน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :348 }