เมนู

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [1. กัมมขันธกะ] 2. นิยสกรรม

1. ไม่พึงให้อุปสมบท 2. ไม่พึงให้นิสัย
3. ไม่พึงใช้สามเณรอุปัฏฐาก 4. ไม่พึงรับแต่งตั้งเป็นผู้สั่งสอนภิกษุณี
5. แม้ได้รับแต่งตั้งแล้วก็ไม่พึงสั่งสอน 6. ไม่พึงต้องอาบัติที่เป็นเหตุให้ถูกสงฆ์
ภิกษุณี ลงนิยสกรรมอีก
7. ไม่พึงต้องอาบัติอื่นทำนองเดียวกัน 8. ไม่พึงต้องอาบัติที่เลวทรามกว่านั้น
9. ไม่พึงตำหนิกรรม 10. ไม่พึงตำหนิภิกษุผู้ทำกรรม
11. ไม่พึงงดอุโบสถแก่ปกตัตตภิกษุ 12. ไม่พึงงดปวารณาแก่ปกตัตตภิกษุ
13. ไม่พึงทำการไต่สวน 14. ไม่พึงเริ่มอนุวาทาธิกรณ์
15. ไม่พึงขอโอกาสภิกษุอื่น 16. ไม่พึงโจทภิกษุอื่น
17. ไม่พึงให้ภิกษุอื่นให้การ 18. ไม่พึงชักชวนกันก่อความทะเลาะ

อัฏฐารสวัตตะในนิยสกรรม จบ

[17] ครั้งนั้น สงฆ์ได้ลงนิยสกรรมภิกษุเสยยสกะ โดยสั่งให้กลับไปถือนิสัย
ใหม่ ภิกษุเสยยกะนั้นถูกสงฆ์ลงนิยสกรรมแล้วเสพ คบหา เข้าไปนั่งใกล้กัลยาณมิตร
ขอให้แนะนำ ซักถามอยู่ จึงเป็นพหูสูต เชี่ยวชาญปริยัติ ทรงธรรม ทรงวินัย
ทรงมาติกา เป็นบัณฑิต เฉลียวฉลาด มีปัญญา มีความละอาย มีความระมัด
ระวัง ใฝ่การศึกษา กลับประพฤติชอบ หายเย่อหยิ่ง กลับตัวได้ เข้าไปหาพวกภิกษุ
แล้วกล่าวว่า “กระผมถูกสงฆ์ลงนิยสกรรมแล้ว กลับประพฤติชอบ หายเย่อหยิ่ง
กลับตัวได้ กระผมจะปฏิบัติอย่างไร”
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ถ้าอย่างนั้น สงฆ์จงระงับนิยสกรรม
แก่ภิกษุเสยยสกะ”

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :34 }