เมนู

พระวินัยปิฎก จูฬรรค [4. สมถขันธกะ] 8. อธิกรณะ
ภิกษุทั้งหลาย ถ้าเธอทั้งหลายพิจารณาเห็นมูลเหตุแห่งการโจทเช่นนี้ ภายใน
หรือภายนอก ในข้อนั้น เธอทั้งหลายพึงพยายามเพื่อละมูลเหตุแห่งการโจทที่เป็นบาป
ภายในหรือภายนอกนั้นแล ถ้าเธอทั้งหลายไม่พิจารณาเห็นมูลแห่งการโจทเช่นนี้
ภายในหรือภายนอก ในข้อนั้น เธอทั้งหลายพึงปฏิบัติเพื่อความยือเยื้อแห่งมูลเหตุ
แห่งการโจทที่เป็นบาปนั้นแล การละมูลแห่งการโจทที่เป็นบาปนั้นแล ย่อมมีด้วย
อาการอย่างนี้ ความยืดเยื้อแห่งมูลเหตุแห่งการโจทที่เป็นบาปนั้น ย่อมมีต่อไป
ด้วยอาการอย่างนี้
มูลแห่งการโจทกัน 6 อย่างเหล่านี้ เป็นมูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์

อกุศลมูล 3
อกุศลมูล 3 อย่าง เป็นมูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์ เป็นไฉน
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุทั้งหลายย่อมมีจิตโลภโจท ย่อมมีจิต
โกรธโจท ย่อมมีจิตหลงโจทภิกษุ ด้วยสีลวิบัติ อาจารวิบัติ ทิฏฐิวิบัติ หรืออาชีววิบัติ
อกุศลมูล 3 อย่างเหล่านี้ เป็นมูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์

กุศลมูล 3
กุศลมูล 3 อย่าง เป็นมูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์ เป็นไฉน
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุทั้งหลาย ย่อมมีจิตไม่โลภโจท ย่อมมี
จิตไม่โกรธโจท ย่อมมีจิตไม่หลงโจท ด้วยสีลวิบัติ อาจารวิบัติ ทิฏฐิวิบัติ หรือ
อาชีววิบัติ กุศลมูล 3 อย่างเหล่านี้ เป็นมูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์

กาย
อนึ่ง กาย เป็นมูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์ เป็นไฉน
ในกรณีนี้ ภิกษุบางรูปเป็นผู้มีผิวพรรณน่ารังเกียจ ไม่น่าดู มีรูปร่างเล็ก มี
อาพาธมาก เป็นคนบอด ง่อย กระจอก หรืออัมพาต ภิกษุทั้งหลายย่อมโจทภิกษุนั้น
ด้วยกายใด กายนี้เป็นมูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :337 }


พระวินัยปิฎก จูฬรรค [4. สมถขันธกะ] 8. อธิกรณะ
วาจา
อนึ่ง วาจาเป็นมูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์ เป็นไฉน
ในกรณีนี้ ภิกษุบางรูปเป็นคนพูดไม่ดี พูดไม่ชัด พูดระราน ภิกษุทั้งหลายย่อม
โจทภิกษุนั้นด้วยวาจาใด วาจานี้เป็นมูลแห่งอนุวาทาธิกรณ์

มูลแห่งอาปัตตาธิกรณ์
[218] อะไรเป็นมูลแห่งอาปัตตาธิกรณ์
สมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 อย่าง เป็นมูลแห่งอาปัตตาธิกรณ์ คือ
1. อาบัติเกิดทางกาย ไม่ใช่ทางวาจา ไม่ใช่ทางจิตก็มี
2. อาบัติเกิดทางวาจา ไม่ใช่ทางกาย ไม่ใช่ทางจิตก็มี
3. อาบัติเกิดทางกายกับวาจา ไม่ใช่ทางจิตก็มี
4. อาบัติเกิดทางกายกับจิต ไม่ใช่ทางวาจาก็มี
5. อาบัติเกิดทางวาจากับจิต ไม่ใช่ทางกายก็มี
6. อาบัติเกิดทางกาย วาจา กับจิตก็มี
สมุฏฐานแห่งอาบัติ 6 อย่างเหล่านี้ เป็นมูลแห่งอาปัตตาธิกรณ์

มูลแห่งกิจจาธิกรณ์
[219] อะไรเป็นมูลแห่งกิจจาธิกรณ์
สงฆ์เป็นมูลเดียวแห่งกิจจาธิกรณ์
[220] วิวาทาธิกรณ์เป็นกุศล อกุศล หรืออัพยากฤต วิวาทาธิกรณ์เป็นกุศล
ก็มี เป็นอกุศลก็มี เป็นอัพยากฤตก็มี
บรรดาวิวาทาธิกรณ์นั้น วิวาทาธิกรณ์ เป็นกุศล เป็นไฉน
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุทั้งหลายมีจิตเป็นกุศล วิวาทกันว่า

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :338 }