พระวินัยปิฎก จูฬรรค [4. สมถขันธกะ] 2. สติวินัย
ท่านพระทัพพมัลลบุตรเข้าเตโชกสิณ ใช้องคุลีส่องแสงสว่างเดินนำหน้าภิกษุ
เหล่านั้น ท่านเหล่านั้นเดินตามท่านพระทัพพมัลลบุตรไปด้วยแสงสว่างนั้น ท่านได้
จัดแจงเสนาสนะสำหรับภิกษุเหล่านั้น ชี้แจงว่า นี่เตียง นี่ตั่ง นี่ฟูก นี่หมอน นี่ที่
ถ่ายอุจจาระ นี่ที่ถ่ายปัสสาวะ นี่น้ำฉัน นี่น้ำใช้ นี่ไม้เท้า นี่ระเบียบกติกาสงฆ์ ควร
เข้าเวลานี้ ควรออกเวลานี้ ครั้นจัดแจงเสร็จแล้ว กลับมาพระเวฬุวันวิหารตามเดิม
เรื่องพระทัพพมัลลบุตร จบ
เรื่องพระเมตติยะและพระภุมมชกะ1
[192] สมัยนั้น พระเมตติยะและพระภุมมชกะ เป็นพระบวชใหม่และมีบุญ น้อย
เสนาสนะของสงฆ์ชั้นเลว อาหารก็ชั้นเลวตกถึงท่านทั้งสอง ชาวกรุงราชคฤห์ต้องการ
จะถวายบิณฑบาตแก่พระเถระทั้งหลายก็ถวายเนยใสบ้าง น้ำมันบ้าง แกงอ่อมบ้าง
ที่จัดปรุงพิเศษ แต่พวกเขาถวายอาหารธรรมดาแก่พระเมตติยะและพระภุมมชกะตาม
แต่จะหาได้ คือ ปลายข้าวกับน้ำผักดอง
วันหนึ่ง ท่านทั้งสองกลับจากบิณฑบาตหลังจากฉันเสร็จแล้ว เที่ยวถามภิกษุ
ผู้เถระทั้งหลายว่า มีอาหารอะไรบ้าง ในโรงฉันสำหรับพวกท่าน
พระเถระบางพวกตอบว่า คุณทั้งสอง พวกเรามีเนยใส น้ำมัน แกงอ่อม
พระเมตติยะและพระภุมมชกะกล่าวว่า พวกกระผมไม่มีอะไรเลย ขอรับ มีแต่
อาหารธรรมดา ตามแต่จะหาได้ คือ ปลายข้าวกับน้ำผักดอง
สมัยต่อมา คหบดีผู้ชอบถวายอาหารอย่างดี ถวายอาหารแก่สงฆ์วันละ 4 ที่
เป็นนิตยภัต คหบดีพร้อมบุตรภรรยาอังคาสอยู่ใกล้ ๆ ในโรงฉัน คนอื่น ๆ ถามถึง
ความต้องการข้าวสุก ถามถึงความต้องการกับข้าว ถามถึงความต้องการน้ำมัน ถาม
ถึงความต้องการแกงอ่อม
เชิงอรรถ :
1 วิ.มหา. (แปล) 1/383/415 - 419