เมนู

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [3. สมุจจยขันธกะ] 9. มูลายอวิสุทธินวกะ
ในระหว่าง มีจำนวนนับไม่ได้ ปิดไว้ จึงขอการชักเข้าหาอาบัติเดิม เพื่ออาบัติใน
ระหว่างกับสงฆ์ สงฆ์ชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม เพื่ออาบัติในระหว่างด้วยกรรมที่
ชอบธรรม ไม่กำเริบ ควรแก่ฐานะ ให้สโมธานปริวาสโดยชอบธรรม ให้มานัตโดยไม่
ชอบธรรม อัพภานโดยไม่ชอบธรรม ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นยังไม่หมดจดจากอาบัติ
เหล่านั้น (5)
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว มีจำนวน
นับได้บ้าง มีจำนวนนับไม่ได้บ้าง มีชื่ออย่างเดียวกันบ้าง มีชื่อต่างกันบ้าง เป็นสภาค
กันบ้าง ไม่เป็นสภาคกันบ้าง กำหนดได้บ้าง กระจายไปบ้าง เธอขอสโมธานปริวาส
เพื่ออาบัติเหล่านั้นกับสงฆ์ สงฆ์ให้สโมธานปริวาสเพื่ออาบัติเหล่านั้นแก่ภิกษุนั้น
เมื่อภิกษุนั้นกำลังอยู่ปริวาสต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง มีจำนวนนับไม่
ได้ ปิดไว้บ้าง ไม่ได้ปิดไว้บ้าง จึงขอการชักเข้าหาอาบัติเดิม เพื่ออาบัติในระหว่างกับ
สงฆ์ สงฆ์ชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิมเพื่ออาบัติในระหว่าง ด้วยกรรมที่ชอบธรรม
ไม่กำเริบ ควรแก่ฐานะ ให้สโมธานปริวาสโดยชอบธรรม ให้มานัตโดยไม่ชอบธรรม
อัพภานโดยไม่ชอบธรรม ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นยังไม่หมดจดจากอาบัติเหล่านั้น (6)
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว มีจำนวน
นับได้บ้าง มีจำนวนนับไม่ได้บ้าง มีชื่ออย่างเดียวกันบ้าง มีชื่อต่างกันบ้าง เป็นสภาค
กันบ้าง ไม่เป็นสภาคกันบ้าง กำหนดได้บ้าง กระจายไปบ้าง ภิกษุนั้นขอสโมธาน-
ปริวาสเพื่ออาบัติเหล่านั้นกับสงฆ์ สงฆ์ให้สโมธานปริวาสเพื่ออาบัติเหล่านั้นแก่ภิกษุ
นั้น เมื่อภิกษุนั้นกำลังอยู่ปริวาสต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง มีจำนวน
นับได้บ้าง มีจำนวนนับไม่ได้บ้าง ไม่ได้ปิดไว้ จึงขอการชักเข้าหาอาบัติเดิม เพื่อ
อาบัติในระหว่างกับสงฆ์ สงฆ์ชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิมเพื่ออาบัติในระหว่าง ด้วย
กรรมที่ชอบธรรม ไม่กำเริบ ควรแก่ฐานะ ให้สโมธานปริวาสโดยชอบธรรม ให้มานัต
โดยไม่ชอบธรรม อัพภานโดยไม่ชอบธรรม ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นยังไม่หมดจดจาก
อาบัติเหล่านั้น (7)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :284 }


พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [3. สมุจจยขันธกะ] 9. มูลายอวิสุทธินวกะ
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว มีจำนวน
นับได้บ้าง มีจำนวนนับไม่ได้บ้าง มีชื่ออย่างเดียวกันบ้าง มีชื่อต่างกันบ้าง เป็นสภาค
กันบ้าง ไม่เป็นสภาคกันบ้าง กำหนดได้บ้าง กระจายไปบ้าง ภิกษุนั้นขอสโมธาน-
ปริวาสเพื่ออาบัติเหล่านั้นกับสงฆ์ สงฆ์ให้สโมธานปริวาสเพื่ออาบัติเหล่านั้นแก่ภิกษุ
นั้น เมื่อภิกษุนั้นกำลังอยู่ปริวาสต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง มีจำนวน
นับได้บ้าง มีจำนวนนับไม่ได้บ้าง ปิดไว้ จึงขอการชักเข้าหาอาบัติเดิม เพื่ออาบัติใน
ระหว่างกับสงฆ์ สงฆ์ชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม เพื่ออาบัติในระหว่าง ด้วยกรรมที่
ชอบธรรม ไม่กำเริบ ควรแก่ฐานะ ให้สโมธานปริวาสโดยชอบธรรม ให้มานัตโดยไม่
ชอบธรรม อัพภานโดยไม่ชอบธรรม ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นยังไม่หมดจดจากอาบัติ
เหล่านั้น (8)
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว มีจำนวน
นับได้บ้าง มีจำนวนนับไม่ได้บ้าง มีชื่ออย่างเดียวกันบ้าง มีชื่อต่างกันบ้าง เป็นสภาค
กันบ้าง ไม่เป็นสภาคกันบ้าง กำหนดได้บ้าง กระจายไปบ้าง ภิกษุนั้นขอสโมธาน-
ปริวาสเพื่ออาบัติเหล่านั้นกับสงฆ์ สงฆ์ให้สโมธานปริวาสเพื่ออาบัติเหล่านั้นแก่ภิกษุ
นั้น เมื่อภิกษุนั้นกำลังอยู่ปริวาสต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง มีจำนวน
นับได้บ้าง มีจำนวนนับไม่ได้บ้าง ปิดไว้บ้าง ไม่ได้ปิดไว้บ้าง จึงขอการชักเข้าหาอาบัติ
เดิม เพื่ออาบัติในระหว่างกับสงฆ์ สงฆ์ชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิมเพื่ออาบัติในระหว่าง
ด้วยกรรมที่ชอบธรรม ไม่กำเริบ ควรแก่ฐานะ ให้สโมธานปริวาสโดยชอบธรรม ให้
มานัตโดยไม่ชอบธรรม อัพภานโดยไม่ชอบธรรม ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นยังไม่หมด
จดจากอาบัติเหล่านั้น (9)
มูลายอวิสุทธินวกะ จบ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :285 }