เมนู

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [3. สมุจจยขันธกะ] 8. เทฺวภิกขุวารเอกาทสกะ
ภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม และพึงให้สโมธานปริวาสเพื่ออาบัติตัวก่อน บรรดาอาบัติ
ตามที่ปิดไว้แก่ภิกษุนั้น (321-400)
สมูลายสโมธานปริวาสจตุสตะ จบ

7. ปริมาณาทิวารอัฏฐกะ
ว่าด้วยวาระอาบัติมีจำนวนนับได้เป็นต้น 8 กรณี
[180] ภิกษุทั้งหลาย ก็ ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว มี
จำนวนนับได้ ไม่ได้ปิดไว้แล้วสึก ฯลฯ
มีจำนวนนับไม่ได้ ไม่ได้ปิดไว้แล้วสึก ฯลฯ
อาบัติมีชื่ออย่างเดียวกัน ไม่ได้ปิดไว้แล้วสึก ฯลฯ
อาบัติมีชื่อต่าง ๆ กัน ไม่ได้ปิดไว้แล้วสึก ฯลฯ
อาบัติเป็นสภาคกัน ไม่ได้ปิดไว้แล้วสึก ฯลฯ
อาบัติไม่เป็นสภาคกัน ไม่ได้ปิดไว้แล้วสึก ฯลฯ
อาบัติกำหนดได้ ไม่ได้ปิดไว้แล้วสึก ฯลฯ
กระจายไป ไม่ได้ปิดไว้แล้วสึก ฯลฯ (พึงให้พิสดารเหมือนในตอนต้น)
ปริมาณาทิวารอัฏฐกะ จบ

8. เทฺวภิกขุวารเอกาทสกะ
ว่าด้วยวาระการให้มานัตแก่ภิกษุ 2 รูป 11 กรณี
[181] ภิกษุ 2 รูป ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ภิกษุเหล่านั้นมีความเห็นในอาบัติ
สังฆาทิเสสว่าเป็นอาบัติสังฆาทิเสส รูปหนึ่งปิดไว้ รูปหนึ่งไม่ปิดไว้ รูปใดปิดไว้ สงฆ์


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :279 }


พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [3. สมุจจยขันธกะ] 8. เทฺวภิกขุวารเอกาทสกะ
พึงให้รูปนั้นแสดงอาบัติทุกกฏและพึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดไว้แก่รูปที่ปิดนั้น
แล้วให้มานัตแก่ภิกษุทั้ง 2 รูป (1)
ภิกษุ 2 รูป ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ภิกษุเหล่านั้นไม่แน่ใจในอาบัติสังฆาทิเสส
รูปหนึ่งปิดไว้ รูปหนึ่งไม่ได้ปิดไว้ รูปใดปิดไว้ สงฆ์พึงให้รูปนั้นแสดงอาบัติทุกกฏ
และพึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดไว้แก่รูปที่ปิดนั้น แล้วให้มานัตแก่ภิกษุทั้ง
2 รูป (2)
ภิกษุ 2 รูป ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ภิกษุเหล่านั้นมีความเห็นในอาบัติ
สังฆาทิเสสว่าเป็นอาบัติเจือกัน รูปหนึ่งปิดไว้ รูปหนึ่งไม่ได้ปิดไว้ รูปใดปิดไว้
สงฆ์พึงให้รูปนั้นแสดงอาบัติทุกกฏ และพึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดไว้แก่รูปที่
ปิดนั้น แล้วให้มานัตแก่ภิกษุทั้ง 2 รูป (3)
ภิกษุ 2 รูป ต้องอาบัติเจือกัน1 ภิกษุเหล่านั้นมีความเห็นในอาบัติเจือกันว่า
เป็นอาบัติสังฆาทิเสส รูปหนึ่งปิดไว้ รูปหนึ่งไม่ได้ปิดไว้ รูปใดปิดไว้ สงฆ์พึงให้รูปนั้น
แสดงอาบัติทุกกฏ และพึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดไว้แก่รูปที่ปิดนั้น แล้วให้
มานัตแก่ภิกษุทั้ง 2 รูป (4)
ภิกษุ 2 รูป ต้องอาบัติเจือกัน ภิกษุเหล่านั้นมีความเห็นในอาบัติเจือกันว่า
เป็นอาบัติเจือกัน รูปหนึ่งปิดไว้ รูปหนึ่งไม่ได้ปิดไว้ รูปใดปิดไว้ สงฆ์พึงให้รูปนั้น
แสดงอาบัติทุกกฏ และพึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดไว้แก่รูปที่ปิดนั้น แล้วให้
มานัตแก่ภิกษุทั้ง 2 รูป (5)
ภิกษุ 2 รูป ต้องลหุกาบัติ(อาบัติเบา)ล้วน ภิกษุเหล่านั้นมีความเห็นใน
ลหุกาบัติล้วนว่าเป็นอาบัติสังฆาทิเสส รูปหนึ่งปิดไว้ รูปหนึ่งไม่ได้ปิดไว้ รูปใดปิดไว้
สงฆ์พึงให้รูปนั้น แสดงอาบัติทุกกฏ พึงปรับภิกษุทั้ง 2 รูปตามธรรม (6)

เชิงอรรถ :
1 อาบัติเจือกัน หมายถึงอาบัติสังฆาทิเสสและอาบัติเบา ๆ อื่น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :280 }