เมนู

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [3. สมุจจยขันธกะ] 4. ฉัตติงสกะ
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุกำลังอยู่ปริวาส ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
หลายตัวในระหว่าง มีจำนวนนับไม่ได้ ปิดไว้ สงฆ์พึงชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม
และพึงให้สโมธานปริวาสเพื่ออาบัติตัวก่อน บรรดาอาบัติตามที่ปิดไว้แก่ภิกษุนั้น (5)
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุกำลังอยู่ปริวาส ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
หลายตัวในระหว่าง มีจำนวนนับไม่ได้ ปิดไว้บ้าง ไม่ได้ปิดไว้บ้าง สงฆ์พึงชักภิกษุนั้น
เข้าหาอาบัติเดิม และพึงให้สโมธานปริวาสเพื่ออาบัติตัวก่อน บรรดาอาบัติตามที่ปิด
ไว้แก่ภิกษุนั้น (6)
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุกำลังอยู่ปริวาส ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
หลายตัวในระหว่าง มีจำนวนนับได้บ้าง มีจำนวนนับไม่ได้บ้าง ไม่ได้ปิดไว้ สงฆ์พึงชัก
ภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม (7)
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุกำลังอยู่ปริวาส ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
หลายตัวในระหว่าง มีจำนวนนับได้บ้าง มีจำนวนนับไม่ได้บ้าง ปิดไว้ สงฆ์พึงชักภิกษุ
นั้นเข้าหาอาบัติเดิม และพึงให้สโมธานปริวาสเพื่ออาบัติตัวก่อน บรรดาอาบัติตามที่
ปิดไว้แก่ภิกษุนั้น (8)
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุกำลังอยู่ปริวาส ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
หลายตัวในระหว่าง มีจำนวนับได้บ้าง มีจำนวนนับไม่ได้บ้าง ปิดไว้บ้าง ไม่ได้ปิดไว้
บ้าง สงฆ์พึงชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม และพึงให้สโมธานปริวาสเพื่ออาบัติตัวก่อน
บรรดาอาบัติตามที่ปิดไว้แก่ภิกษุนั้น (9)

ภิกษุผู้ควรแก่มานัตต้องอาบัติสังฆาทิเสส
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุผู้ควรแก่มานัต ฯลฯ (10-18)

ภิกษุผู้ประพฤติมานัตต้องอาบัติสังฆาทิเสส
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุผู้ประพฤติมานัต ฯลฯ (19-27) (พึง
อธิบายให้พิสดารเหมือนการอยู่ปริวาส)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :264 }


พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [3. สมุจจยขันธกะ] 4. ฉัตติงสกะ
ภิกษุผู้ควรแก่อัพภานต้องอาบัติสังฆาทิเสส
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุผู้ควรแก่อัพภาน ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
หลายตัวในระหว่าง มีจำนวนนับได้ ไม่ได้ปิดไว้ สงฆ์พึงชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม
(28)
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุผู้ควรแก่อัพภาน ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
หลายตัวในระหว่าง มีจำนวนนับได้ ปิดไว้ สงฆ์พึงชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิมและ
พึงให้สโมธานปริวาสเพื่ออาบัติตัวก่อน บรรดาอาบัติตามที่ปิดไว้แก่ภิกษุนั้น (29)
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุผู้ควรแก่อัพภาน ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
หลายตัวในระหว่าง มีจำนวนนับได้ ปิดไว้บ้าง ไม่ได้ปิดไว้บ้าง สงฆ์พึงชักภิกษุนั้น
เข้าหาอาบัติเดิม และพึงให้สโมธานปริวาสเพื่ออาบัติตัวก่อน บรรดาอาบัติตามที่ปิด
ไว้แก่ภิกษุนั้น (30)
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุผู้ควรแก่อัพภาน ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
หลายตัวในระหว่าง มีจำนวนนับไม่ได้ ไม่ได้ปิดไว้ สงฆ์พึงชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม
(31)
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุผู้ควรแก่อัพภาน ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
หลายตัวในระหว่าง มีจำนวนนับไม่ได้ ปิดไว้ สงฆ์พึงชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิมและ
พึงให้สโมธานปริวาสเพื่ออาบัติตัวก่อน บรรดาอาบัติตามที่ปิดไว้แก่ภิกษุนั้น (32)
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุผู้ควรแก่อัพภาน ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
หลายตัวในระหว่าง มีจำนวนนับไม่ได้ ปิดไว้บ้าง ไม่ได้ปิดไว้บ้าง สงฆ์พึงชักภิกษุนั้น
เข้าหาอาบัติเดิม และพึงให้สโมธานปริวาสเพื่ออาบัติตัวก่อน บรรดาอาบัติตามที่ปิด
ไว้แก่ภิกษุนั้น (33)
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุผู้ควรแก่อัพภาน ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
หลายตัวในระหว่าง มีจำนวนนับได้บ้าง มีจำนวนนับไม่ได้บ้าง ไม่ได้ปิดไว้ สงฆ์พึง
ชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม (34)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :265 }