เมนู

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [3. สมุจจยขันธกะ] 3. จัตตาฬีสกะ
ภิกษุอยู่ปริวาสวิกลจริต
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุกำลังอยู่ปริวาส เกิดวิกลจริต ปริวาส
ของภิกษุนั้นผู้วิกลจริตใช้ไม่ได้ ถ้าภิกษุนั้นหายวิกลจริต ให้ปริวาสเดิมนั้นแหละ
แก่ภิกษุนั้น ปริวาสที่ให้แล้วเป็นอันให้ดีแล้ว ปริวาสที่อยู่แล้วเป็นอันอยู่ดีแล้ว พึง
อยู่ปริวาสที่เหลือต่อไป (3)

ภิกษุอยู่ปริวาสมีจิตฟุ้งซ่าน
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุกำลังอยู่ปริวาส มีจิตฟุ้งซ่าน ปริวาส
ของภิกษุผู้มีจิตฟุ้งซ่านนั้นใช้ไม่ได้ ถ้าภิกษุนั้นมีจิตไม่ฟุ้งซ่านอีก ให้ปริวาสเดิมนั้น
แหละแก่ภิกษุนั้น ปริวาสที่ให้แล้วเป็นอันให้ดีแล้ว ปริวาสที่อยู่แล้วเป็นอันอยู่ดีแล้ว
พึงอยู่ปริวาสที่เหลือต่อไป (4)

ภิกษุอยู่ปริวาสกระสับกระส่ายเพราะเวทนา
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุกำลังอยู่ปริวาส เป็นผู้กระสับกระส่าย
เพราะเวทนา ปริวาสของภิษุผู้กระสับกระส่ายเพราะเวทนานั้นใช้ไม่ได้ ถ้าภิกษุนั้น
ไม่กระสับกระส่ายเพราะเวทนาอีก ให้ปริวาสเดิมนั้นแหละแก่ภิกษุนั้น ปริวาสที่ให้
แล้วเป็นอันให้ดีแล้ว ปริวาสที่อยู่แล้วเป็นอันอยู่ดีแล้ว พึงอยู่ปริวาสที่เหลือต่อไป (5)

ภิกษุอยู่ปริวาสถูกสงฆ์ลงอุกเขปนียกรรม
เพราะไม่เห็นว่าเป็นอาบัติ
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุกำลังอยู่ปริวาส ถูกสงฆ์ลงอุกเขปนียกรรม
เพราะไม่เห็นว่าเป็นอาบัติ ปริวาสของภิกษุนั้นผู้ถูกสงฆ์ลงอุกเขปนียกรรมนั้นใช้ไม่ได้ ถ้า
ภิกษุนั้นถูกเรียกเข้าหมู่อีก ให้ปริวาสเดิมนั้นแหละแก่ภิกษุนั้น ปริวาสที่ให้แล้วเป็น
อันให้ดีแล้ว ปริวาสที่อยู่แล้วเป็นอันอยู่ดีแล้ว พึงอยู่ปริวาสที่เหลือต่อไป (6)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :259 }


พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [3. สมุจจยขันธกะ] 3. จัตตาฬีสกะ
ภิกษุอยู่ปริวาสถูกสงฆ์ลงอุกเขปนียกรรม
เพราะไม่ทำคืนอาบัติ
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุกำลังอยู่ปริวาส ถูกสงฆ์ลงอุกเขปนียกรรม
เพราะไม่ทำคืนอาบัติ ปริวาสของภิกษุผู้ถูกสงฆ์ลงอุกเขปนียกรรมนั้นใช้ไม่ได้ ถ้าภิกษุ
นั้นถูกเรียกเข้าหมู่อีก ให้ปริวาสเดิมนั้นแหละแก่ภิกษุนั้น ปริวาสที่ให้แล้วเป็นอันให้ดี
แล้ว ปริวาสที่อยู่แล้วเป็นอันอยู่ดีแล้ว พึงอยู่ปริวาสที่เหลือต่อไป (7)

ภิกษุอยู่ปริวาสถูกสงฆ์ลงอุกเขปนียกรรม
เพราะไม่สละทิฏฐิบาป
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุกำลังอยู่ปริวาส ถูกสงฆ์ลงอุกเขปนียกรรม
เพราะไม่สละทิฏฐิบาป ปริวาสของภิกษุผู้ถูกสงฆ์ลงอุกเขปนียกรรมนั้นใช้ไม่ได้ ถ้า
ภิกษุนั้นถูกเรียกเข้าหมู่อีก ให้ปริวาสเดิมนั้นแหละแก่ภิกษุนั้น ปริวาสที่ให้แล้วเป็น
อันให้ดีแล้ว ปริวาสที่อยู่แล้วเป็นอันอยู่ดีแล้ว พึงอยู่ปริวาสที่เหลือต่อไป (8)

ภิกษุควรแก่การชักเข้าหาอาบัติเดิมสึก
[161] ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุผู้ควรแก่การชักเข้าหาอาบัติเดิม
สึกเสีย การชักภิกษุผู้สึกแล้วเข้าหาอาบัติเดิมนั้นใช้ไม่ได้ ถ้าภิกษุนั้นอุปสมบทใหม่
ให้ปริวาสเดิมนั้นแหละแก่ภิกษุนั้น ปริวาสที่ให้แล้วเป็นอันให้ดีแล้ว ปริวาสที่อยู่แล้ว
เป็นอันอยู่ดีแล้ว สงฆ์พึงชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม (9)

ภิกษุผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิมลดฐานะเป็นสามเณรเป็นต้น
ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุผู้ควรแก่การชักเข้าหาอาบัติเดิม ลดฐานะ
เป็นสามเณร ฯลฯ เกิดวิกลจริต ฯลฯ มีจิตฟุ้งซ่าน ฯลฯ กระสับกระส่ายเพราะ
เวทนา ฯลฯ ถูกสงฆ์ลงอุกเขปนียกรรมเพราะไม่เห็นว่าเป็นอาบัติ ฯลฯ ถูกสงฆ์
ลงอุกเขปนียกรรมเพราะไม่ทำคืนอาบัติ ฯลฯ ถูกสงฆ์ลงอุกเขปนียกรรมเพราะไม่


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :260 }