เมนู

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [3. สมุจจยขันธกะ] 2. ปริวาส
[154] ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสส 2 ตัว
ปิดไว้ 2 เดือน คือ เดือนหนึ่งระลึกได้แต่ปิดไว้ เดือนหนึ่งปิดไว้โดยระลึกไม่ได้ ภิกษุนั้น
ขอปริวาส 2 เดือน เพื่ออาบัติ 2 ตัว ปิดไว้ 2 เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาส
2 เดือน เพื่ออาบัติ 2 ตัว ปิดไว้ 2 เดือนแก่ภิกษุนั้นแล้ว เมื่อภิกษุนั้นกำลังอยู่
ปริวาส ภิกษุรูปอื่นผู้เป็นพหูสูต เชี่ยวชาญปริยัติ ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา
เป็นบัณฑิต เฉลียวฉลาด มีปัญญา มีความละอาย มีความระมัดระวัง ใฝ่การศึกษา
มาถึง กล่าวอย่างนี้ว่า ‘ท่านทั้งหลาย ภิกษุนี้ต้องอาบัติอะไร ภิกษุนี้อยู่ปริวาสเพื่อ
อาบัติอะไร’ ภิกษุเหล่านั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ‘ท่าน ภิกษุนี้ต้องอาบัติสังฆาทิเสส 2
ตัว ปิดไว้ 2 เดือน เดือนหนึ่งระลึกได้แต่ปิดไว้ เดือนหนึ่งปิดไว้โดยระลึกไม่ได้
ภิกษุนั้นขอปริวาส 2 เดือน เพื่ออาบัติ 2 ตัว ปิดไว้ 2 เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้
ปริวาส 2 เดือน เพื่ออาบัติ 2 ตัว ปิดไว้ 2 เดือนแก่ภิกษุนั้น ท่าน ภิกษุนี้ต้อง
อาบัติเหล่านั้น ภิกษุนี้อยู่ปริวาสเพื่ออาบัติเหล่านั้น’ ภิกษุนั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ‘ท่าน
ทั้งหลาย การให้ปริวาสสำหรับเดือนที่ระลึกได้แต่ปิดไว้ ชอบธรรม ความชอบธรรม
ย่อมฟังขึ้น ส่วนการให้ปริวาสสำหรับเดือนที่ปิดไว้โดยระลึกไม่ได้ ไม่ชอบธรรม ความ
ไม่ชอบธรรมย่อมฟังไม่ขึ้น ท่านทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้ควรแก่มานัตเดือนหนึ่ง’
[155] ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ในกรณีนี้ ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสส 2 ตัว ปิด
ไว้ 2 เดือน คือ เดือนหนึ่งแน่ใจแต่ปิดไว้ เดือนหนึ่งปิดไว้โดยไม่แน่ใจ ภิกษุนั้นขอ
ปริวาส 2 เดือน เพื่ออาบัติ 2 ตัว ปิดไว้ 2 เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาส 2 เดือน
เพื่ออาบัติ 2 ตัว ปิดไว้ 2 เดือนแก่ภิกษุนั้นแล้ว เมื่อภิกษุนั้นกำลังอยู่ปริวาส
ภิกษุรูปอื่นผู้เป็นพหูสูต เชี่ยวชาญปริยัติ ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา เป็นบัณฑิต
เฉลียวฉลาด มีปัญญา มีความละอาย มีความระมัดระวัง ใฝ่การศึกษา มาถึง
กล่าวอย่างนี้ว่า ‘ท่านทั้งหลาย ภิกษุนี้ต้องอาบัติอะไร ภิกษุนี้อยู่ปริวาสเพื่ออาบัติ
อะไร’ ภิกษุเหล่านั้นกล่าวอย่างนี้ว่า ‘ท่าน ภิกษุนี้ต้องอาบัติสังฆาทิเสส 2 ตัว ปิดไว้
2 เดือน คือ เดือนหนึ่งแน่ใจแต่ปิดไว้ เดือนหนึ่งปิดไว้โดยไม่แน่ใจ ภิกษุนั้นขอ
ปริวาส 2 เดือน เพื่ออาบัติ 2 ตัว ปิดไว้ 2 เดือนกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาส 2 เดือน


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :254 }