เมนู

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [3. สมุจจยขันธกะ] 2. ปริวาส
สัพพจิรปฏิจฉันนอัคฆสโมธาน

ว่าด้วยปริวาสประมวลค่าแห่งอาบัติ
ที่ปิดไว้นานกว่าอาบัติทั้งหมดเข้าด้วยกัน
[136] สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว คือ อาบัติ 1
ตัวปิดไว้ 1 วัน อาบัติ 2 ตัวปิดไว้ 2 วัน อาบัติ 3 ตัวปิดไว้ 3 วัน อาบัติ 4
ตัวปิดไว้ 4 วัน อาบัติ 5 ตัวปิดไว้ 5 วัน อาบัติ 6 ตัวปิดไว้ 6 วัน อาบัติ 7
ตัวปิดไว้ 7 วัน อาบัติ 8 ตัวปิดไว้ 8 วัน อาบัติ 9 ตัวปิดไว้ 9 วัน อาบัติ 10
ตัวปิดไว้ 10 วัน ภิกษุนั้นบอกแก่ภิกษุทั้งหลายว่า “ท่านทั้งหลาย กระผมต้องอาบัติ
สังฆาทิเสสหลายตัว คือ อาบัติ 1 ตัวปิดไว้ 1 วัน ฯลฯ อาบัติ 10 ตัวปิดไว้ 10
วัน กระผมจะปฏิบัติอย่างไร”
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ถ้าเช่นนั้น บรรดาอาบัติเหล่านั้น
อาบัติเหล่าใด ปิดไว้นานกว่าอาบัติทั้งหมด สงฆ์จงให้อัคฆสโมธานปริวาสเพื่อ
อาบัติเหล่านั้นแก่ภิกษุนั้น

วิธีให้ปริวาสและกรรมวาจา
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้อัคฆสโมธานปริวาสอย่างนี้ คือ ภิกษุนั้นพึงเข้า
ไปหาสงฆ์ ห่มอุตตราสงค์เฉวียงบ่าข้างหนึ่ง ฯลฯ กล่าวอย่างนี้ว่า “ท่านผู้เจริญ
กระผมต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว คือ อาบัติ 1 ตัวปิดไว้ 1 วัน ฯลฯ อาบัติ
10 ตัวปิดไว้ 10 วัน ท่านผู้เจริญ บรรดาอาบัติเหล่านั้น อาบัติเหล่าใดปิดไว้นาน
กว่าอาบัติทั้งหมด กระผมนั้นขออัคฆสโมธานปริวาสเพื่ออาบัติเหล่านั้นกับสงฆ์”
พึงขอแม้ครั้งที่ 2 ฯลฯ
พึงขอแม้ครั้งที่ 3 ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :238 }


พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [3. สมุจจยขันธกะ] 2. ปริวาส
ภิกษุผู้ฉลาดสามารถพึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติจตุตถกรรมวาจาว่า
[137] “ท่านผู้เจริญ ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุชื่อนี้รูปนี้ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
หลายตัว คือ อาบัติ 1 ตัวปิดไว้ 1 วัน ฯลฯ อาบัติ 10 ตัวปิดไว้ 10 วัน
บรรดาอาบัติเหล่านั้น อาบัติเหล่าใดปิดไว้นานกว่าอาบัติทั้งหมด ภิกษุชื่อนี้ขอ
อัคฆสโมธานปริวาสเพื่ออาบัติเหล่านั้นกับสงฆ์ ถ้าสงฆ์พร้อมกันแล้ว บรรดาอาบัติ
เหล่านั้น อาบัติเหล่าใดปิดไว้นานกว่าอาบัติทั้งหมด สงฆ์พึงให้อัคฆสโมธานปริวาส
เพื่ออาบัติเหล่านั้นแก่ภิกษุชื่อนี้ นี่เป็นญัตติ
ท่านผู้เจริญ ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุชื่อนี้รูปนี้ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
หลายตัว คือ อาบัติ 1 ตัวปิดไว้ 1 วัน ฯลฯ อาบัติ 10 ตัวปิดไว้ 10 วัน บรรดา
อาบัติเหล่านั้น อาบัติเหล่าใดปิดไว้นานกว่าอาบัติทั้งหมด ภิกษุชื่อนี้ขออัคฆสโมธาน
ปริวาสเพื่ออาบัติเหล่านั้นกับสงฆ์ บรรดาอาบัติเหล่านั้น อาบัติเหล่าใดปิดไว้นานกว่า
อาบัติทั้งหมด สงฆ์ให้อัคฆสโมธานปริวาสเพื่ออาบัติเหล่านั้นแก่ภิกษุชื่อนี้ บรรดา
อาบัติเหล่านั้น อาบัติเหล่าใดปิดไว้นานกว่าอาบัติทั้งหมดท่านรูปใดเห็นด้วยกับการ
ให้อัคฆสโมธานปริวาส เพื่ออาบัติเหล่านั้นแก่ภิกษุชื่อนี้ ท่านรูปนั้นพึงนิ่ง ท่านรูปใด
ไม่เห็นด้วย ท่านรูปนั้นพึงทักท้วง
แม้ครั้งที่ 2 ข้าพเจ้ากล่าวความนี้ว่า ฯลฯ
แม้ครั้งที่ 3 ข้าพเจ้ากล่าวความนี้ว่า ฯลฯ
บรรดาอาบัติเหล่านั้น อาบัติเหล่าใดปิดไว้นานกว่าอาบัติทั้งหมด อัคฆสโมธาน-
ปริวาสเพื่ออาบัติเหล่านั้น สงฆ์ให้แก่ภิกษุชื่อนี้ สงฆ์เห็นด้วย เพราะฉะนั้นจึงนิ่ง
ข้าพเจ้าขอถือความนิ่งนั้นเป็นมติอย่างนี้”


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :239 }