เมนู

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [3. สมุจจยขันธกะ] 2. ปริวาส
นั่งกระโหย่ง ประนมมือ กล่าวอย่างนี้ว่า “ท่านผู้เจริญ กระผมต้องอาบัติสังฆาทิเสส
หลายตัว คือ อาบัติ 1 ตัวปิดไว้ 1 วัน ฯลฯ อาบัติ 1 ตัวปิดไว้ 10 วัน
ท่านผู้เจริญ บรรดาอาบัติเหล่านั้น อาบัติใดปิดไว้ 10 วัน กระผมนั้นขออัคฆสโมธาน-
ปริวาสเพื่ออาบัตินั้นกับสงฆ์”
พึงขอแม้ครั้งที่ 2 ฯลฯ
พึงขอแม้ครั้งที่ 3 ฯลฯ
ภิกษุผู้ฉลาดสามารถพึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติจตุตถกรรมวาจาว่า
[135] “ท่านผู้เจริญ ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุชื่อนี้รูปนี้ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
หลายตัว คือ อาบัติ 1 ตัวปิดไว้ 1 วัน ฯลฯ อาบัติ 1 ตัวปิดไว้ 10 วัน บรรดา
อาบัติเหล่านั้น อาบัติใดปิดไว้ 10 วัน ภิกษุชื่อนี้ขออัคฆสโมธานปริวาสเพื่ออาบัติ
นั้นกับสงฆ์ ถ้าสงฆ์พร้อมกันแล้ว บรรดาอาบัติเหล่านั้น อาบัติใดปิดไว้ 10 วัน
สงฆ์พึงให้อัคฆสโมธานปริวาสเพื่ออาบัตินั้นแก่ภิกษุชื่อนี้ นี่เป็นญัตติ
ท่านผู้เจริญ ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุชื่อนี้รูปนี้ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว
คือ อาบัติ 1 ตัวปิดไว้ 1 วัน ฯลฯ อาบัติ 1 ตัวปิดไว้ 10 วัน บรรดาอาบัติ
เหล่านั้น อาบัติใดปิดไว้ 10 วัน ภิกษุชื่อนี้ขออัคฆสโมธานปริวาสเพื่ออาบัตินั้นกับ
สงฆ์ บรรดาอาบัติเหล่านั้น อาบัติใดปิดไว้ 10 วัน สงฆ์ก็ให้อัคฆสโมธานปริวาส
เพื่ออาบัตินั้นแก่ภิกษุชื่อนี้ บรรดาอาบัติเหล่านั้น อาบัติใดปิดไว้ 10 วัน ท่านรูปใด
เห็นด้วยกับการให้อัคฆสโมธานปริวาสเพื่ออาบัตินั้นแก่ภิกษุชื่อนี้ ท่านรูปนั้นพึงนิ่ง
ท่านรูปใดไม่เห็นด้วย ท่านรูปนั้นพึงทักท้วง
แม้ครั้งที่ 2 ข้าพเจ้ากล่าวความนี้ว่า ฯลฯ
แม้ครั้งที่ 3 ข้าพเจ้ากล่าวความนี้ว่า ฯลฯ
บรรดาอาบัติเหล่านั้น อาบัติใดปิดไว้ 10 วันอัคฆสโมธานปริวาสเพื่ออาบัตินั้น
สงฆ์ให้แล้วแก่ภิกษุชื่อนี้ สงฆ์เห็นด้วย เพราะฉะนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้าขอถือเอาความนิ่งนั้น
เป็นมติอย่างนี้”


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :237 }