เมนู

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [3. สมุจจยขันธกะ] 1. สุกกวิสัฏฐิ
ภิกษุอุทายี สงฆ์ชักเข้าหาอาบัติเดิมแล้ว เพื่ออาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกกา-
สุกกวิสัฏฐิ ในระหว่าง ไม่ได้ปิดไว้ สงฆ์เห็นด้วย เพราะฉะนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้าขอ
ถือเอาความนิ่งนั้นเป็นมติอย่างนี้”

ติกาปัตติมานัตตะ
ว่าด้วยมานัตเพื่ออาบัติ 3 ตัว
[114] ท่านพระอุทายีนั้นอยู่ปริวาสแล้วบอกแก่ภิกษุทั้งหลายว่า “ท่าน
ทั้งหลาย กระผมต้องอาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดไว้ 5 วัน กระผม
นั้นขอปริวาส 5 วันเพื่ออาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดไว้ 5 วันกับสงฆ์
สงฆ์ได้ให้ปริวาส 5 วันเพื่ออาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดไว้ 5 วัน
แก่กระผมแล้ว กระผมนั้นกำลังอยู่ปริวาส ต้องอาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ
ในระหว่าง ไม่ได้ปิดไว้ กระผมนั้นจึงขอการชักเข้าหาอาบัติเพื่ออาบัติ 1 ตัวชื่อ
สัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ในระหว่าง ไม่ได้ปิดไว้กับสงฆ์ สงฆ์ชักกระผมนั้นเข้าหาอาบัติ
เดิมเพื่ออาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ในระหว่าง ไม่ได้ปิดไว้ กระผมนั้น
อยู่ปริวาสแล้วเป็นผู้ควรควรแก่มานัต ต้องอาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ใน
ระหว่าง ไม่ได้ปิดไว้ กระผมนั้นจึงขอการชักเข้าหาอาบัติเดิมเพื่ออาบัติ 1 ตัวชื่อ
สัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ในระหว่าง ไม่ได้ปิดไว้กับสงฆ์ สงฆ์ชักกระผมนั้นเข้าหาอาบัติ
เดิมเพื่ออาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ในระหว่าง ไม่ได้ปิดไว้ กระผมนั้น
อยู่ปริวาสแล้วจะพึงปฏิบัติอย่างไร”
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ถ้าอย่างนั้น สงฆ์จงให้มานัต 6
ราตรีเพื่ออาบัติ 3 ตัวแก่ภิกษุอุทายี”

วิธีให้มานัตเพื่ออาบัติ 3 ตัว และกรรมวาจา
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้มานัตอย่างนี้ คือ ภิกษุอุทายีนั้นพึงเข้าไปหาสงฆ์
ห่มอุตตราสงค์เฉวียงบ่าข้างหนึ่ง กราบเท้าภิกษุผู้แก่พรรษาทั้งหลาย นั่งกระโหย่ง

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :210 }