เมนู

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [3. สมุจจยขันธกะ] 1. สุกกวิสัฏฐิ
ปาริวาสิกมูลายปฏิกัสสนา
ว่าด้วยการชักภิกษุผู้อยู่ปริวาสเข้าหาอาบัติเดิม
[110] ท่านพระอุทายีนั้นกำลังอยู่ปริวาส ต้องอาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกา-
สุกกวิสัฏฐิในระหว่างไม่ได้ปิดไว้ บอกแก่ภิกษุทั้งหลายว่า “ท่านทั้งหลาย กระผม
ต้องอาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดไว้ 5 วัน กระผมนั้นขอปริวาส 5
วันเพื่ออาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดไว้ 5 วันกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาส
5 วันเพื่ออาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดไว้ 5 วันแก่กระผม กระผม
นั้นกำลังอยู่ปริวาส ต้องอาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิในระหว่างไม่ได้ปิดไว้
กระผมจะปฏิบัติอย่างไร”
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ถ้าอย่างนั้น สงฆ์จงชักภิกษุอุทายี
เข้าหาอาบัติเดิม เพื่ออาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิในระหว่างไม่ได้ปิดไว้”

วิธีชักเข้าหาอาบัติเดิม และกรรมวาจา
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงชักเข้าหาอาบัติเดิมอย่างนี้ คือ ภิกษุอุทายีนั้นพึงเข้า
ไปหาสงฆ์ ห่มอุตตราสงค์เฉวียงบ่าข้างหนึ่ง กราบเท้าภิกษุผู้แก่พรรษาทั้งหลาย
นั่งกระโหย่ง ประนมมือ กล่าวอย่างนี้ว่า ท่านผู้เจริญ กระผมต้องอาบัติ 1 ตัว
ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดไว้ 5 วัน กระผมนั้นขอปริวาส 5 วัน เพื่ออาบัติ
1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดไว้ 5 วันกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาส 5 วัน เพื่อ
อาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดไว้ 5 วันแก่กระผม กระผมนั้นกำลังอยู่
ปริวาส ต้องอาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิในระหว่างไม่ได้ปิดไว้ กระผมนั้น
จึงขอการชักเข้าหาอาบัติเดิม เพื่ออาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ในระหว่าง
ไม่ได้ปิดไว้กับสงฆ์
พึงขอแม้ครั้งที่ 2 ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :205 }


พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [3. สมุจจยขันธกะ] 1. สุกกวิสัฏฐิ
พึงขอแม้ครั้งที่ 3 ฯลฯ
ภิกษุผู้ฉลาดสามารถพึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติจตุตถกรรมวาจาว่า
[111] “ท่านผู้เจริญ ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุอุทายีนี้ต้องอาบัติ 1 ตัวชื่อ
สัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดไว้ 5 วัน ภิกษุอุทายีนั้นขอปริวาส 5 วันเพื่ออาบัติ 1
ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดไว้ 5 วันกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาส 5 วันเพื่ออาบัติ
1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดไว้ 5 วันแก่ภิกษุอุทายีแล้ว ภิกษุอุทายีนั้นกำลัง
อยู่ปริวาส ต้องอาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ในระหว่าง ไม่ได้ปิดไว้ ภิกษุ
อุทายีนั้นขอการชักเข้าหาอาบัติเดิมเพื่ออาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ใน
ระหว่าง ไม่ได้ปิดไว้กับสงฆ์ ถ้าสงฆ์พร้อมกันแล้วพึงชักภิกษุอุทายีเข้าหาอาบัติเดิม
เพื่ออาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิในระหว่างไม่ได้ปิดไว้ นี่เป็นญัตติ
ท่านผู้เจริญ ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุอุทายีนี้ต้องอาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกา-
สุกกวิสัฏฐิ ปิดไว้ 5 วัน ภิกษุอุทายีนั้นขอปริวาส 5 วันเพื่ออาบัติ 1 ตัวชื่อ
สัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดไว้ 5 วันกับสงฆ์ สงฆ์ได้ให้ปริวาส 5 วันเพื่ออาบัติ 1
ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดไว้ 5 วันแก่ภิกษุอุทายีแล้ว ภิกษุอุทายีนั้นกำลัง
อยู่ปริวาส ต้องอาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิในระหว่าง ไม่ได้ปิดไว้ ภิกษุ
อุทายีนั้นขอการชักเข้าหาอาบัติเดิม เพื่ออาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิใน
ระหว่างไม่ได้ปิดไว้กับสงฆ์ สงฆ์จึงชักภิกษุอุทายีเข้าหาอาบัติเดิมเพื่ออาบัติ 1 ตัว
ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิในระหว่างไม่ได้ปิดไว้ ท่านรูปใดเห็นด้วยกับการชักภิกษุ
อุทายีเข้าหาอาบัติเดิม เพื่ออาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกา สุกกวิสัฏฐิ ในระหว่างไม่ได้
ปิดไว้ ท่านรูปนั้นพึงนิ่ง ท่านรูปใดไม่เห็นด้วย ท่านรูปนั้นพึงทักท้วง
แม้ครั้งที่ 2 ข้าพเจ้ากล่าวความนี้ว่า ฯลฯ
แม้ครั้งที่ 3 ข้าพเจ้ากล่าวความนี้ว่า ท่านผู้เจริญ ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุ
อุทายีนี้ต้องอาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดไว้ 5 วัน ภิกษุอุทายีนั้น
ขอปริวาส 5 วัน เพื่ออาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ปิดไว้ 5 วัน


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :206 }