เมนู

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [3. สมุจจยขันธกะ] 1. สุกกวิสัฏฐิ
3. สมุจจยขันธกะ

1. สุกกวิสัฏฐิ
ว่าด้วยวิธีการออกจากอาบัติที่ต้องเพราะทำน้ำอสุจิให้เคลื่อน

เรื่องพระอุทายี
[97] สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม
ของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี ครั้งนั้นท่านพระอุทายีต้องอาบัติ 1 ตัวชื่อ
สัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ1 ไม่ได้ปิดไว้ แล้วบอกภิกษุทั้งหลายว่า “กระผมต้องอาบัติ 1
ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ไม่ได้ปิดไว้ กระผมจะปฏิบัติอย่างไร”
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ถ้าอย่างนั้น สงฆ์จงให้มานัต 6 ราตรี
เพื่ออาบัติ 1 ตัว ชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ไม่ได้ปิดไว้แก่ภิกษุอุทายี
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงให้มานัตอย่างนี้”

อัปปฏิจฉันนมานัตตะ
ว่าด้วยมานัตเพื่ออาบัติที่ไม่ได้ปิดไว้และกรรมวาจา
[98] ภิกษุอุทายีนั้นพึงเข้าไปหาสงฆ์ ห่มอุตตราสงค์เฉวียงบ่าข้างหนึ่งกราบ
เท้าภิกษุผู้แก่พรรษาทั้งหลาย นั่งกระโหย่ง ประนมมือ กล่าวอย่างนี้ว่า “ท่านผู้เจริญ
กระผมต้องอาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ไม่ได้ปิดไว้ ท่านผู้เจริญ
กระผมนั้นขอมานัต2 6 ราตรี เพื่ออาบัติ 1 ตัวชื่อสัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ไม่ได้
ปิดไว้กับสงฆ์

เชิงอรรถ :
1 คำว่า สัญเจตนิกาสุกกวิสัฏฐิ ได้แก่ อาบัติที่ภิกษุต้องเพราะจงใจทำน้ำอสุจิให้เคลื่อน
2 มานัต แปลว่า นับ หมายถึงนับราตรี 6 ราตรี คืออยู่ประพฤติมานัตในเขตที่สงฆ์กำหนดให้เป็นเวลา 6
ราตรี แล้วสงฆ์จึงสวดระงับอาบัติให้

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :192 }