เมนู

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [2. ปาริวาสิกขันธกะ] 5. อัพภานารหวัตตะ
ทรงอนุญาตให้สมาทานมานัต
[94] สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายเดินทางออกจากกรุงสาวัตถีไปในที่ต่าง ๆ ภิกษุ
ทั้งหลายผู้ประพฤติมานัตสามารถทำมานัตให้บริสุทธิ์ได้ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระ
ผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้สมาทานมานัต”

วิธีสมาทานมานัต
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพึงสมาทานมานัตอย่างนี้ ภิกษุผู้ประพฤติมานัตพึงเข้าไป
หาภิกษุรูปหนึ่ง ห่มอุตตราสงค์เฉวียงบ่าข้างหนึ่ง นั่งกระโหย่ง ประนมมือ กล่าวว่า
“ข้าพเจ้าสมาทานมานัต” มานัตย่อมเป็นอันสมาทาน หรือกล่าวว่า “ข้าพเจ้าสมาทาน
วัตร” มานัตย่อมเป็นอันสมาทาน
มานัตตจาริกวัตตะ จบ

5. อัพภานารหวัตตะ
ว่าด้วยวัตรของภิกษุผู้ควรแก่อัพภาน
[95] สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายผู้ควรแก่อัพภานยินดีการที่ปกตัตตภิกษุทั้งหลาย
กราบไหว้ลุกรับ ฯลฯ การถูหลังให้ในคราวอาบน้ำ
บรรดาภิกษุผู้มักน้อยสันโดษ ฯลฯ ตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า “ไฉน
พวกภิกษุผู้ควรแก่อัพภานยินดีการที่ปกตัตตภิกษุทั้งหลายกราบไหว้ ลุกรับ ฯลฯ
การถูหลังให้ในคราวอาบน้ำเล่า” แล้วได้นำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้
ทรงทราบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :186 }