เมนู

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [2. ปาริวาสิกขันธกะ] 3. มานัตตารหวัตตะ
ยินดีการที่ปกตัตตภิกษุทั้งหลายกราบไหว้ ลุกรับ ฯลฯ การถูหลังให้ในคราวอาบน้ำ
จริงหรือ”
ภิกษุทั้งหลายทูลรับว่า “จริง พระพุทธเจ้าข้า”
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงตำหนิว่า “การกระทำของภิกษุผู้ควรแก่มานัต
ไม่สมควร ฯลฯ ภิกษุทั้งหลาย ไฉนพวกภิกษุผู้ควรแก่มานัตจึงยินดีการที่ปกตัตต
ภิกษุทั้งหลายกราบไหว้ ลุกรับ ฯลฯ การถูหลังให้ในคราวอาบน้ำเล่า ภิกษุทั้งหลาย
การกระทำอย่างนี้ มิได้ทำให้คนที่ยังไม่เลื่อมใสให้เลื่อมใส ฯลฯ ครั้นทรงตำหนิแล้ว
ฯลฯ ทรงแสดงธรรมีกถาแล้ว รับสั่งกับภิกษุทั้งหลายว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ควรแก่
มานัตไม่พึงยินดีการที่ปกตัตตภิกษุทั้งหลายกราบไหว้ ลุกรับ ฯลฯ การถูหลังให้
ในคราวอาบน้ำ รูปใดยินดี ต้องอาบัติทุกกฏ
ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตการกราบไหว้ ลุกรับ ฯลฯ การถูหลังให้ในคราว
อาบน้ำของภิกษุผู้ควรแก่มานัตด้วยกันตามลำดับพรรษา
ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตกิจ 5 อย่าง คือ อุโบสถ ปวารณา ผ้าอาบน้ำฝน
การสละภัต ภัตเพื่อภิกษุผู้ควรแก่มานัตด้วยกันตามลำดับพรรษา
ภิกษุทั้งหลาย ถ้าอย่างนั้น เราจะบัญญัติวัตรแก่ภิกษุผู้ควรแก่มานัต โดยวิธี
ที่ภิกษุผู้ควรแก่มานัตทั้งหลายต้องประพฤติ

วัตร 79 ข้อของภิกษุผู้ควรแก่มานัต
[89] ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ควรแก่มานัตพึงประพฤติโดยชอบ การประพฤติ
โดยชอบในเรื่องนั้นดังนี้ ภิกษุผู้ควรแก่มานัต
1. ไม่พึงให้อุปสมบท
2. ไม่พึงให้นิสัย
3. ไม่พึงใช้สามเณรอุปัฏฐาก
4. ไม่พึงรับแต่งตั้งเป็นผู้สั่งสอนภิกษุณี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :173 }


พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [2. ปาริวาสิกขันธกะ] 3. มานัตตารหวัตตะ
5. แม้ได้รับแต่งตั้งแล้วก็ไม่พึงสั่งสอนภิกษุณี
6. ไม่พึงต้องอาบัติที่เป็นเหตุให้สงฆ์ต้องทำให้เป็นผู้ควรแก่มานัตอีก
7. ไม่พึงต้องอาบัติอื่นทำนองเดียวกัน
8. ไม่พึงต้องอาบัติที่เลวทรามกว่านั้น
9. ไม่พึงตำหนิกรรม
10. ไม่พึงตำหนิภิกษุผู้ทำกรรม
11. ไม่พึงงดอุโบสถแก่ปกตัตตภิกษุ
12. ไม่พึงงดปวารณาแก่ปกตัตตภิกษุ
13. ไม่พึงทำการไต่สวน
14. ไม่พึงเริ่มอนุวาทาธิกรณ์
15. ไม่พึงขอโอกาสภิกษุอื่น
16. ไม่พึงโจทภิกษุอื่น
17. ไม่พึงให้ภิกษุอื่นให้การ
18. ไม่พึงชักชวนกันก่อความทะเลาะ
19. ไม่พึงเดินนำหน้าปกตัตตภิกษุ
20. ไม่พึงนั่งข้างหน้าปกตัตตภิกษุ
21. พึงพอใจอาสนะสุดท้าย ที่นอนสุดท้าย วิหารสุดท้ายของสงฆ์ที่จะ
ให้เธอ
22. ไม่พึงมีปกตัตตภิกษุเป็นปุเรสมณะ หรือเป็นปัจฉาสมณะเข้าตระกูล
23. ไม่พึงสมาทานอารัญญิกังคธุดงค์
24. ไม่พึงสมาทานปิณฑปาติกังคธุดงค์
25. ไม่พึงให้เขานำบิณฑบาตมาส่ง เพราะปัจจัยนั้นด้วยคิดว่า “คนอย่า
ได้รู้จักเรา”

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :174 }