พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [1. กัมมขันธกะ] 7. อุกเขปนียกรรมเพราะไม่สละทิฏฐิบาป
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงตำหนิว่า ภิกษุทั้งหลาย การกระทำนี้ไม่สมควร
ฯลฯ ภิกษุทั้งหลาย ไฉนโมฆบุรุษนั้นถูกสงฆ์ลงอุกเขปนียกรรมเพราะไม่สละทิฏฐิบาป
จึงสึกเล่า การกระทำอย่างนี้มิได้ทำคนที่ยังไม่เลื่อมใสให้เลื่อมใสหรือทำคนที่เลื่อมใส
อยู่แล้วให้เลื่อมใสยิ่งขึ้นได้เลย ที่จริงกลับจะทำให้คนที่ไม่เลื่อมใสก็ไม่เลื่อมใสไปเลย
คนที่เลื่อมใสอยู่แล้วบางพวกก็จะกลายเป็นอื่นไป ฯลฯ ครั้นทรงตำหนิแล้ว ฯลฯ
ทรงแสดงธรรมีกถาแล้วรับสั่งกับภิกษุทั้งหลายว่า ภิกษุทั้งหลาย ถ้าอย่างนั้น สงฆ์
จงระงับอุกเขปนียกรรมเพราะไม่สละทิฏฐิบาป
นัปปฏิปัสสัมเภตัพพเตจัตตาฬีสกะ
ว่าด้วยองค์ 43
ของภิกษุที่สงฆ์ไม่พึงระงับอุกเขปนียกรรมเพราะไม่สละทิฏฐิบาป
หมวดที่ 1
[72] ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์ไม่พึงระงับอุกเขปนียกรรม เพราะไม่สละทิฏฐิบาป
แก่ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 คือ
1. ให้อุปสมบท 2. ให้นิสัย
3. ใช้สามเณรอุปัฏฐาก 4. รับแต่งตั้งเป็นผู้สั่งสอนภิกษุณี
5. แม้ได้รับแต่งตั้งแล้วก็ยังสั่งสอนภิกษุณี
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์ไม่พึงระงับอุกเขปนียกรรมเพราะไม่สละทิฏฐิบาปแก่ภิกษุผู้
ประกอบด้วยองค์ 5 เหล่านี้แล
หมวดที่ 2
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์ไม่พึงระงับอุกเขปนียกรรม เพราะไม่สละทิฏฐิบาปแก่ภิกษุ
ผู้ประกอบด้วยองค์ 5 อีกอย่างหนึ่ง คือ
พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [1. กัมมขันธกะ] 7. อุกเขปนียกรรมเพราะไม่สละทิฏฐิบาป
1. ต้องอาบัติที่เป็นเหตุให้ถูกสงฆ์ลงอุกเขปนียกรรมเพราะการไม่สละ
ทิฏฐิบาปอีก
2. ต้องอาบัติอื่นทำนองเดียวกัน
3. ต้องอาบัติที่เลวทรามกว่านั้น
4. ตำหนิกรรม
5. ตำหนิภิกษุผู้ทำกรรม
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์ไม่พึงระงับอุกเขปนียกรรม เพราะไม่สละทิฏฐิบาปแก่ภิกษุ
ผู้ประกอบด้วยองค์ 5 เหล่านี้แล
ฯลฯ
หมวดที่ 8
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์ไม่พึงระงับอุกเขปนียกรรม เพราะไม่สละทิฏฐิบาปแก่ภิกษุ
ผู้ประกอบด้วยองค์ 8 คือ
1. งดอุโบสถแก่ปกตัตตภิกษุ 2. งดปวารณาแก่ปกตัตตภิกษุ
3. ทำการไต่สวน 4. เริ่มอนุวาทาธิกรณ์
5. ขอโอกาสภิกษุอื่น 6. โจทภิกษุอื่น
7. ให้ภิกษุอื่นให้การ 8. ชักชวนกันก่อความทะเลาะ
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์ไม่พึงระงับอุกเขปนียกรรม เพราะไม่สละทิฏฐิบาปแก่ภิกษุ
ผู้ประกอบด้วยองค์ 8 เหล่านี้แล
นัปปฏิปัสสัมเภตัพพเตจัตตาฬีสกะ
ในอุกเขปนียกรรมเพราะไม่สละทิฏฐิบาป จบ
