เมนู

พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [1. กัมมขันธกะ] 7. อุกเขปนียกรรมเพราะไม่สละทิฏฐิบาป
ท่านผู้เจริญ ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุอริฏฐะผู้มีบรรพบุรุษเป็นพรานฆ่านก
แร้งมีทิฏฐิบาปเกิดขึ้นว่า ‘เรารู้ทั่วถึงธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแล้ว จนกระทั่ง
ว่าธรรมที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่าเป็นธรรมก่ออันตราย ก็หาสามารถก่ออันตรายแก่
ผู้ซ่องเสพได้จริงไม่’ ภิกษุอริฏฐะนั้นไม่ยอมละทิฏฐินั้น สงฆ์ลงอุกเขปนียกรรม เพราะ
ไม่สละทิฏฐิบาปแก่ภิกษุอริฏฐะผู้มีบรรพบุรุษเป็นพรานฆ่านกแร้ง ห้ามสมโภคกับสงฆ์
ท่านรูปใดเห็นด้วยกับการลงอุกเขปนียกรรมเพราะไม่สละทิฏฐิบาปแก่ภิกษุอริฏฐะผู้
มีบรรพบุรุษเป็นพรานฆ่านกแร้ง ห้ามสมโภคกับสงฆ์ ท่านรูปนั้นพึงนิ่ง ท่านรูปใด
ไม่เห็นด้วย ท่านรูปนั้นพึงทักท้วง
ครั้งที่ 2 ข้าพเจ้ากล่าวความนี้ว่า ฯลฯ
ครั้งที่ 3 ข้าพเจ้ากล่าวความนี้ว่า ท่านผู้เจริญ ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ภิกษุ
อริฏฐะผู้มีบรรพบุรุษเป็นพรานฆ่านกแร้งมีทิฏฐิบาปเกิดขึ้นว่า ‘เรารู้ทั่วถึงธรรมที่พระ
ผู้มีพระภาคทรงแสดงแล้ว จนกระทั่งว่าธรรมตามที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่าเป็นธรรมก่อ
อันตราย ก็หาสามารถก่ออันตรายแก่ผู้ซ่องเสพได้จริงไม่’ ภิกษุอริฏฐะนั้นไม่ยอมละ
ทิฏฐินั้น สงฆ์ลงอุกเขปนียกรรมเพราะไม่สละทิฏฐิบาปแก่ภิกษุอริฏฐะผู้มีบรรพบุรุษ
เป็นพรานฆ่านกแร้ง ห้ามสมโภคกับสงฆ์ ท่านรูปใดเห็นด้วยกับการลงอุกเขปนีย-
กรรม เพราะไม่สละทิฏฐิบาปแก่ภิกษุอริฏฐะผู้มีบรรพบุรุษเป็นพรานฆ่านกแร้ง ห้าม
สมโภคกับสงฆ์ ท่านรูปนั้นพึงนิ่ง ท่านรูปใดไม่เห็นด้วย ท่านรูปนั้นพึงทักท้วง
อุกเขปนียกรรมเพราะไม่สละทิฏฐิบาป สงฆ์ลงแล้วแก่ภิกษุอริฏฐะผู้มีบรรพบุรุษ
เป็นพรานฆ่านกแร้ง ห้ามสมโภคกับสฆ์ สงฆ์เห็นด้วย เพราะเหตุนั้นจึงนิ่ง ข้าพเจ้า
ขอถือเอาความนิ่งนั้นเป็นมติอย่างนี้”
ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงบอกภิกษุในอาวาสต่อ ๆ ไปว่า “ภิกษุอริฏฐะผู้มี
บรรพ บุรุษเป็นพรานฆ่านกแร้ง ถูกสงฆ์ลงอุกเขปนียกรรมเพราะไม่สละทิฏฐิบาป
ห้ามสมโภคกับสงฆ์”

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 6 หน้า :135 }