พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [1. กัมมขันธกะ] 5. อุกเขปนียกรรมเพราะไม่เห็นว่าเป็นอาบัติ
หมวดที่ 2
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงระงับอุกเขปนียกรรม เพราะไม่เห็นว่าเป็นอาบัติแก่ภิกษุ
ผู้ประกอบด้วยองค์ 5 อีกอย่างหนึ่ง คือ
1. ไม่ต้องอาบัติที่เป็นเหตุให้ถูกสงฆ์ลงอุกเขปนียกรรมเพราะไม่เห็นว่า
เป็นอาบัติอีก
2. ไม่ต้องอาบัติอื่นทำนองเดียวกัน
3. ไม่ต้องอาบัติที่เลวทรามกว่านั้น
4. ไม่ตำหนิกรรม
5. ไม่ตำหนิภิกษุผู้ทำกรรม
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงระงับอุกเขปนียกรรม เพราะไม่เห็นว่าเป็นอาบัติแก่ภิกษุ
ผู้ประกอบด้วยองค์ 5 เหล่านี้แล (10)
หมวดที่ 3
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงระงับอุกเขปนียกรรม เพราะไม่เห็นว่าเป็นอาบัติแก่ภิกษุ
ผู้ประกอบด้วยองค์ 5 อีกอย่างหนึ่ง คือ
1. ไม่ยินดีการกราบไหว้ของปกตัตตภิกษุ
2. ไม่ยินดีการลุกรับของปกตัตตภิกษุ
3. ไม่ยินดีการประนมมือของปกตัตตภิกษุ
4. ไม่ยินดีสามีจิกรรมของปกตัตตภิกษุ
5. ไม่ยินดีการนำอาสนะมาให้ของปกตัตตภิกษุ
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงระงับอุกเขปนียกรรม เพราะไม่เห็นว่าเป็นอาบัติแก่ภิกษุ
ผู้ประกอบด้วยองค์ 5 เหล่านี้แล (15)
พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [1. กัมมขันธกะ] 5. อุกเขปนียกรรมเพราะไม่เห็นว่าเป็นอาบัติ
หมวดที่ 4
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงระงับอุกเขปนียกรรม เพราะไม่เห็นว่าเป็นอาบัติแก่ภิกษุ
ผู้ประกอบด้วยองค์ 5 อีกอย่างหนึ่ง คือ
1. ไม่ยินดีการนำที่นอนมาให้ของปกตัตตภิกษุ
2. ไม่ยินดีน้ำล้างเท้า การตั้งตั่งรองเท้าให้ของปกตัตตภิกษุ
3. ไม่ยินดีการตั้งกระเบื้องเช็ดเท้าให้ของปกตัตตภิกษุ
4. ไม่ยินดีการรับบาตรและจีวรของปกตัตตภิกษุ
5. ไม่ยินดีการที่ปกตัตตภิกษุถูหลังให้ในคราวอาบน้ำ
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงระงับอุกเขปนียกรรม เพราะไม่เห็นว่าเป็นอาบัติแก่ภิกษุ
ผู้ประกอบด้วยองค์ 5 เหล่านี้แล (20)
หมวดที่ 5
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงระงับอุกเขปนียกรรม เพราะไม่เห็นว่าเป็นอาบัติแก่ภิกษุ
ผู้ประกอบด้วยองค์ 5 อีกอย่างหนึ่ง คือ
1. ไม่ใส่ความปกตัตตภิกษุด้วยสีลวิบัติ
2. ไม่ใส่ความปกตัตตภิกษุด้วยอาจารวิบัติ
3. ไม่ใส่ความปกตัตตภิกษุด้วยทิฏฐิวิบัติ
4. ไม่ใส่ความปกตัตตภิกษุด้วยอาชีววิบัติ
5. ไม่ยุยงปกตัตตภิกษุให้แตกกัน
ภิกษุทั้งหลาย สงฆ์พึงระงับอุกเขปนียกรรม เพราะไม่เห็นว่าเป็นอาบัติแก่ภิกษุ
ผู้ประกอบด้วยองค์ 5 เหล่านี้แล (25)
