เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวรรค [6. เภสัชชขันธกะ] 172. เพลักฐกัจจานวัตถุ
คนกินเดนบางพวกบรรจุน้ำอ้อยงบเต็มกระป๋องบ้าง เต็มหม้อบ้าง ห่อเต็ม
ผ้าขาวปูลาดบ้าง เต็มพกบ้าง
พราหมณ์เพลัฏฐกัจจานะนำน้ำอ้อยงบเลี้ยงดูพวกคนกินเดนให้อิ่มหนำแล้วได้
กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า “ข้าพระองค์ได้นำน้ำอ้อยงบเลี้ยงดูพวกคนกินเดนจน
อิ่มหนำ แต่น้ำอ้อยงบยังเหลืออยู่มาก จะปฏิบัติอย่างไร พระพุทธเจ้าข้า”
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “ดูก่อนกัจจานะ ทั่วโลกนี้พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก
พรหมโลกทั่วทุกหมู่สัตว์ พร้อมทั้งสมณะพราหมณ์เทวดาและมนุษย์ เราไม่เล็งเห็น
ผู้ที่บริโภคน้ำอ้อยงบนั้นแล้วจะย่อยได้ดี ยกเว้นตถาคตหรือสาวกของตถาคต เธอจง
ทิ้งน้ำอ้อยงบนั้นในที่ปราศจากของเขียวหรือในที่ที่ไม่มีตัวสัตว์”
พราหมณ์เพลัฏฐกัจจานะกราบทูลรับสนองพระพุทธดำรัสแล้ว ได้เทน้ำอ้อยงบ
ลงในที่ไม่มีตัวสัตว์ น้ำอ้อยงบนั้นได้เดือดพุ่งส่งเสียงดัง ฉี่ ฉี่ ฉี่ ฉี่ พ่นไอพ่นควันขึ้น
เหมือนผาลที่ร้อนโชนตลอดวันที่บุคคลจุ่มลงน้ำย่อมเดือดพุ่งส่งเสียงดัง ฉี่ ฉี่ ฉี่ ฉี่
ทันใดนั้นเขาสลดใจเกิดโลมชาติชูชัน เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นถึง
แล้วได้ถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาคแล้ว นั่งเฝ้าอยู่ ณ ที่สมควร
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสอนุปุพพิกถา คือ ทรงประกาศ
1. ทานกถา 2. สีลกถา
3. สัคคกถา 4. กามาทีนวกถา
5. เนกขัมมานิสังสกถา แก่พราหมณ์เพลัฏฐะนั้นผู้นั่งอยู่ ณ ที่สมควร
เมื่อทรงทราบว่าพราหมณ์เพลัฏฐะนั้นมีจิตควร อ่อน ปราศจากนิวรณ์ เบิก
บาน ผ่องใส จึงทรงประกาศสามุกกังสิกธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย คือ
ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ธรรมจักษุอันปราศจากธุลี ปราศจากมลทินได้เกิดแก่
พราหมณ์เพลัฏฐกัจจานะ ณ อาสนะนั้นแลว่า “สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็น
ธรรมดา สิ่งนั้นทั้งปวง มีความดับไปเป็นธรรมดา” เปรียบเหมือนผ้าขาวสะอาด
ปราศจากมลทิน ควรรับน้ำย้อมได้เป็นอย่างดี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 5 หน้า :95 }


พระวินัยปิฎก มหาวรรค [6. เภสัชชขันธกะ] 172. เพลัฏฐกัจจานวัตถุ
ครั้งนั้น พราหมณ์เพลัฏฐกัจจานะได้เห็นธรรมแล้ว บรรลุธรรมแล้ว รู้แจ้ง
ธรรมแล้ว หยั่งลงสู่ธรรมแล้ว ข้ามความสงสัยแล้ว ปราศจากความแคลงใจ ถึง
ความเป็นผู้แกล้วกล้า ไม่ต้องเชื่อใครอีกในคำสอนของพระศาสดา ได้กราบทูลพระ
ผู้มีพระภาค ดังนี้ว่า “พระองค์ผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์ชัดเจนไพเราะยิ่งนัก
พระองค์ผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์ชัดเจนไพเราะยิ่งนัก พระองค์ทรงประกาศ
ธรรมแจ่มแจ้งโดยประการต่าง ๆ เปรียบเหมือนคนหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด
บอกทางแก่ผู้หลงทาง หรือตามประทีปในที่มืดด้วยตั้งใจว่า คนมีตาดีจักเห็นรูป
พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์นี้ขอถึงพระผู้มีพระภาค พร้อมทั้งพระธรรมและพระ
สงฆ์เป็นสรณะ ขอพระผู้มีพระภาคจงทรงจำข้าพระพุทธเจ้าว่า เป็นอุบาสกผู้ถึงสรณะ
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนตลอดชีวิต”
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเสด็จจาริกไปตามลำดับ จนถึงกรุงราชคฤห์ ทราบว่า
พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเวฬุวัน สถานที่ให้เหยื่อกระแต ในกรุงราช
คฤห์นั้น สมัยนั้น กรุงราชคฤห์มีน้ำอ้อยงบมาก ภิกษุทั้งหลายยำเกรงอยู่ว่า “พระ
ผู้มีพระภาคทรงอนุญาตน้ำอ้อยงบแก่ภิกษุผู้เป็นไข้เท่านั้น ไม่ทรงอนุญาตแก่ผู้ไม่เป็นไข้”
จึงไม่ฉันน้ำอ้อยงบ
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตน้ำอ้อยงบแก่ภิกษุผู้เป็นไข้
น้ำอ้อยงบละลายน้ำแก่ผู้ไม่เป็นไข้”

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 5 หน้า :96 }