เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวรรค [10. โกสัมพิกขันธกะ] 279. อุปาลิสังฆสามัคคีปุจฉา
279. อุปาลิสังฆสามัคคีปุจฉา
ว่าด้วยพระอุบาลีกราบทูลถามถึงสังฆสามัคคี

เรื่องทรงแสดงสังฆสามัคคี 2 อย่างแก่ท่านพระอุบาลี
[476] ครั้งนั้น ท่านพระอุบาลีเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ณ ที่ประทับ ถวาย
อภิวาทพระผู้มีพระภาคแล้วนั่งอยู่ ณ ที่สมควร ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า
“พระพุทธเจ้าข้า ความบาดหมาง ความทะเลาะ ความขัดแย้ง ความวิวาท ความ
แตกแห่งสงฆ์ ความร้าวรานแห่งสงฆ์ ความแบ่งแยกแห่งสงฆ์ การทำสงฆ์ให้เป็น
ต่าง ๆ กันมีเพราะเรื่องใด สงฆ์ยังไม่ได้วินิจฉัย ยังไม่ได้สืบสวนเรื่องนั้นแล้วทำสังฆ
สามัคคี สังฆสามัคคีนั้นชอบธรรมหรือหนอ”
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “อุบาลี ความบาดหมาง ความทะเลาะ ความขัดแย้ง
ความวิวาท ความแตกแห่งสงฆ์ ความร้าวรานแห่งสงฆ์ ความแบ่งแยกแห่งสงฆ์
การทำสงฆ์ให้เป็นต่าง ๆ กันย่อมมีเพราะเรื่องใด สงฆ์ยังไม่ได้วินิจฉัย ยังไม่ได้สืบสวน
เรื่องนั้นแล้วทำสังฆสามัคคี สังฆสามัคคีนั้นไม่ชอบด้วยธรรม
ท่านพระอุบาลีกราบทูลถามว่า “พระพุทธเจ้าข้า ก็ความบาดหมาง ความ
ทะเลาะ ความขัดแย้ง ความวิวาท ความแตกแห่งสงฆ์ ความร้าวรานแห่งสงฆ์
ความแบ่งแยกแห่งสงฆ์ การทำสงฆ์ให้เป็นต่าง ๆ กันย่อมมีเพราะเรื่องใด สงฆ์ได้
วินิจฉัย สืบสวนเรื่องนั้นแล้วทำสังฆสามัคคี สังฆสามัคคีนั้นชอบด้วยธรรมหรือหนอ”
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า “อุบาลี ความบาดหมาง ความทะเลาะ ความ
ขัดแย้ง ความวิวาท ความแตกแห่งสงฆ์ ความร้าวรานแห่งสงฆ์ ความแบ่งแยก
แห่งสงฆ์ การทำสงฆ์ให้เป็นต่าง ๆ กันย่อมมีเพราะเรื่องใด สงฆ์ได้วินิจฉัย สืบสวน
เรื่องนั้นแล้วทำสังฆสามัคคี สังฆสามัคคีนั้นชอบด้วยธรรม

สังฆสามัคคี 2 อย่าง
ท่านพระอุบาลีกราบทูลถามว่า “สังฆสามัคคีมีเท่าไร พระพุทธเจ้าข้า”

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 5 หน้า :371 }


พระวินัยปิฎก มหาวรรค [10. โกสัมพิกขันธกะ] 279. อุปาลิสังฆสามัคคีปุจฉา
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า “อุบาลี สังฆสามัคคีมี 2 อย่าง คือ สังฆสามัคคี
ผิดไปจากอรรถ แต่ได้พยัญชนะ และสังฆสามัคคีได้ทั้งอรรถและได้ทั้งพยัญชนะ
สังฆสามัคคีผิดไปจากอรรถแต่ได้พยัญชนะอย่างไรบ้าง คือ ความบาดหมาง
ความทะเลาะ ความขัดแย้ง ความวิวาท ความแตกแห่งสงฆ์ ความร้าวรานแห่งสงฆ์
ความแบ่งแยกแห่งสงฆ์ การทำสงฆ์ให้เป็นต่าง ๆ กันย่อมมีเพราะเรื่องใด สงฆ์ไม่ได้
วินิจฉัย ไม่ได้สืบสวนเรื่องนั้นแล้วทำสังฆสามัคคี อย่างนี้เรียกว่าสังฆสามัคคีผิดไป
จากอรรถแต่ได้พยัญชนะ
สังฆสามัคคีได้ทั้งอรรถและได้ทั้งพยัญชนะเป็นอย่างไร คือ ความบาดหมาง
ความทะเลาะ ความขัดแย้ง ความวิวาท ความแตกแห่งสงฆ์ ความร้าวรานแห่งสงฆ์
ความแบ่งแยกแห่งสงฆ์ การทำสงฆ์ให้เป็นต่าง ๆ กันย่อมมีเพราะเรื่องใด สงฆ์ได้
วินิจฉัยสืบสวนเรื่องนั้นแล้วทำสังฆสามัคคี อย่างนี้เรียกว่าสังฆสามัคคีได้ทั้งอรรถและ
ได้ทั้งพยัญชนะ
อุบาลี สังฆสามัคคีมี 2 อย่างนี้แล

เรื่องไม่ถูกตำหนิโดยศีลอุบาลีคาถา
[477] ลำดับนั้น ท่านพระอุบาลีลุกจากอาสนะ ห่มอุตตราสงค์เฉวียงบ่าข้าง
หนึ่ง ประนมมือไปทางพระผู้มีพระภาคแล้วกราบทูลพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาดังนี้ว่า
[478] พระอุบาลีกราบทูลถามว่า “เมื่อมีกิจการปรึกษา
การตีความและการวินิจฉัยความเรื่องวินัยเกิดขึ้นแก่สงฆ์
ในพระธรรมวินัยนี้ ภิกษุเช่นไรจึงจัดว่าเป็นผู้มีอุปการะมาก
และควรแก่การยกย่อง”
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า “เบื้องต้น ภิกษุมีศีลไม่ด่างพร้อย
มีมารยาทสงบเสงี่ยม ศัตรูตำหนิไม่ได้โดยธรรม
เพราะไม่มีความผิดที่จะตำหนิได้

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 5 หน้า :372 }