เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวรรค [10. โกสัมพิกขันธกะ] 272. ทีฆาวุวัตถุ
[464] ครั้นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคทรงครองอันตรวาสก ทรงถือบาตร
และจีวรเสด็จเข้าไปบิณฑบาตในกรุงโกสัมพี เสด็จกลับจากบิณฑบาต ภายหลัง
เสวยเสร็จแล้ว ทรงเก็บเสนาสนะถือบาตรและจีวรประทับยืนท่ามกลางสงฆ์ตรัส
พระคาถาเหล่านี้ว่า
ภิกษุมีเสียงดังเป็นเสียงเดียวกัน ที่จะรู้สึกว่าตนเป็นพาลนั้น
ไม่มีเลยสักรูปเดียว ยิ่งเมื่อสงฆ์แตกกันก็ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องอื่น
พวกเธอขาดสติ แสดงตนว่าเป็นบัณฑิต เจ้าคารม พูดได้
ตามที่ปรารถนา จะยื่นปากพูดก็ไม่รู้สึกถึงการทะเลาะ
คนเหล่าใดผูกใจเจ็บว่า
“มันได้ด่าเรา มันได้ทำร้ายเรา
มันได้ชนะเรา มันได้ลักของของเรา”
เวรของคนเหล่านั้น ย่อมระงับไม่ได้เลย
ส่วนคนเหล่าใดไม่ผูกใจเจ็บว่า
“มันได้ด่าเรา มันได้ทำร้ายเรา
มันได้ชนะเรา มันได้ลักของของเรา”
เวรของเขาเหล่านั้น ย่อมระงับได้
ไม่ว่ายุคไหน ๆ ในโลกนี้
เวรย่อมไม่ระงับด้วยการจองเวร
แต่ระงับด้วยการไม่จองเวร
นี้เป็นของเก่า1
คนเหล่าอื่นไม่รู้ชัดว่า
“พวกเรากำลังย่อยยับอยู่ ณ ทีนี้
ส่วนคนเหล่าใด ในหมู่นั้นรู้ชัด

เชิงอรรถ :
1 เป็นของเก่า หมายถึงเป็นข้อปฏิบัติสืบ ๆ กันมาของพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้าและพระขีณาสพ
(ขุ.ธ.อ. 1/4/45)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 5 หน้า :354 }