เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวรรค [5. จัมมขันธกะ] 158. มหากัจจานปัญจวรปริทัสสนา
2. พระพุทธเจ้าข้า พื้นดินในอวันตีทักขิณาบถ มีสีดำมาก แข็ง มี
รอยระแหงกีบโค ถ้ากระไร พระผู้มีพระภาคพึงทรงอนุญาตรองเท้า
หลายชั้น เฉพาะในอวันตีทักขิณาบถ
3. พระพุทธเจ้าข้า พวกมนุษย์ในอวันตีทักขิณาบถนิยมการอาบน้ำ
ถือว่าน้ำจะทำให้สะอาด ถ้ากระไร พระผู้มีพระภาคพึงทรงอนุญาต
การอาบน้ำได้เป็นนิตย์ เฉพาะในอวันตีทักขิณาบถ
4. พระพุทธเจ้าข้า ในอวันตีทักขิณาบถ มีหนังที่เป็นเครื่องลาด คือ
หนังแกะ หนังแพะ หนังมฤค เหมือนกับที่มัชฌิมชนบทมีหญ้า
ตีนกา หญ้าหางนกยูง หญ้าหนวดแมว หญ้าหางช้าง ถ้ากระไร
พระผู้มีพระภาคพึงทรงอนุญาตหนังที่เป็นเครื่องลาด คือ หนังแกะ
หนังแพะ และหนังมฤค เฉพาะในอวันตีทักขิณาบถ
5. พระพุทธเจ้าข้า เวลานี้ พวกมนุษย์ถวายจีวรฝากภิกษุทั้งหลาย
ผู้อยู่นอกสีมาด้วยกล่าวว่า ‘พวกเราขอถวายจีวรผืนนี้แก่ภิกษุชื่อนี้’
ภิกษุผู้รับฝากเหล่านั้นมาบอกว่า ‘พวกมนุษย์ชื่อนี้ถวายจีวรแก่ท่าน’
ภิกษุที่จะได้รับจีวรเหล่านั้นยำเกรงอยู่ จึงไม่ยินดี ด้วยคิดว่า
‘ของที่เป็นนิสสัคคีย์1 อย่าได้มีแก่พวกเราเลย’ ถ้ากระไร พระผู้มี
พระภาคพึงตรัสบอกเหตุในเรื่องจีวร”

พระโสณะเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค
ท่านพระโสณะรับคำของท่านพระมหากัจจานะแล้ว ลุกจากอาสนะไหว้ท่าน
พระมหากัจจานะ ทำประทักษิณ เก็บเสนาสนะ ถือบาตรและจีวร จาริกไปทาง
กรุงสาวัตถี เดินทางไปโดยลำดับจนถึงกรุงสาวัตถี ถึงพระเชตวันอารามของอนาถ
บิณฑิกเศรษฐีแล้วเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคจนถึงที่ประทับ ถวายอภิวาทพระผู้มี
พระภาคแล้วนั่ง ณ ที่สมควร

เชิงอรรถ :
1 ดูรายละเอียดเกี่ยวกับของที่เป็นนิสสัคคีย์ใน วิ.มหา. (แปล) 2/459-541/1-69

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 5 หน้า :35 }


พระวินัยปิฎก มหาวรรค [5. จัมมขันธกะ] 158. มหากัจจานปัญจวรปริทัสสนา
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกับท่านพระอานนท์ว่า “อานนท์ เธอจงจัด
เสนาสนะต้อนรับภิกษุอาคันตุกะรูปนี้”
ท่านพระอานนท์ทราบว่า “พระผู้มีพระภาคทรงมีพระประสงค์จะประทับอยู่ใน
วิหารหลังเดียวกับภิกษุรูปที่พระองค์มีพระบัญชาใช้เราว่า ‘อานนท์ เธอจงจัด
เสนาสนะต้อนรับภิกษุอาคันตุกะรูปนี้’ พระผู้มีพระภาคทรงมีพระประสงค์จะประทับ
อยู่ในวิหารแห่งเดียวกับท่านพระโสณะ” จึงจัดเสนาสนะต้อนรับท่านพระโสณะใน
พระวิหารอันเป็นที่ประทับของพระผู้มีพระภาค

เรื่องพระโสณะสวดพระสูตรในอัฏฐกวรรค
[258] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ในที่แจ้งจนดึกจึงเสด็จเข้าพระวิหาร
ฝ่ายท่านพระโสณะก็ใช้เวลาอยู่ในที่แจ้งจนดึกจึงเข้าพระวิหาร พอถึงเวลาใกล้รุ่ง
พระผู้มีพระภาคทรงลุกขึ้นแล้ว ทรงเชื้อเชิญท่านพระโสณะว่า “ภิกษุ เธอจงกล่าวธรรม
ตามถนัดเถิด”1
ท่านพระโสณะทูลรับสนองพระดำรัสแล้ว ได้สวดพระสูตรทั้งหมด ในอัฏฐก
วรรค2โดยทำนองสรภัญญะ
เมื่อท่านพระโสณะสวดทำนองสรภัญญะจบแล้ว พระผู้มีพระภาคทรงชื่นชม
อย่างยิ่งจึงได้ประทานสาธุการว่า “ดีละ ดีละ ภิกษุ เธอเล่าเรียนสูตรในอัฏฐก
วรรคมาดีแล้ว จำได้แม่นยำดี เปล่งเสียงสวดได้ไพเราะเพราะพริ้ง ไม่มีที่น่าตำหนิ
บอกความหมายได้ชัดเจน ภิกษุ เธอมีพรรษาเท่าไร”
ท่านพระโสณะกราบทูลว่า “ข้าพระองค์บวชได้ 1 พรรษา พระพุทธเจ้าข้า”
พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า “ภิกษุ เพราะเหตุไร เธอจึงช้าอยู่เล่า”

เชิงอรรถ :
1 จงกล่าวธรรมตามที่ได้ฟัง ตามที่เล่าเรียนมา (ขุ.อุ.อ. 46/334)
2 ขุ.สุ. 25/773-982/486-524

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 5 หน้า :36 }