พระวินัยปิฎก มหาวรรค [8. จีวรขันธกะ] 231. ทุคคหิตสุคคหิตาทิกถา
ภิกษุทั้งหลาย ในกรณีนี้ ภิกษุฝากจีวรไปกับภิกษุด้วยสั่งว่า ท่านจงถวาย
จีวรผืนนี้แก่ภิกษุชื่อนี้ ในระหว่างทาง ภิกษุผู้รับฝากถือเอาเองเพราะวิสาสะกับ
ผู้รับ อย่างนี้ชื่อว่าถือเอาไม่ถูกต้อง แต่ถือเอาเพราะวิสาสะกับผู้ฝาก ชื่อว่าถือเอา
ถูกต้อง
ภิกษุทั้งหลาย ในกรณีนี้ ภิกษุฝากจีวรไปกับภิกษุด้วยสั่งว่า ท่านจงถวายจีวร
ผืนนี้แก่ภิกษุชื่อนี้ ในระหว่างทาง ภิกษุผู้รับฝากได้ทราบข่าวว่า ผู้ฝากมรณภาพ
เสียแล้ว จึงอธิษฐานเป็นจีวรมรดกของภิกษุผู้ฝากนั้น อย่างนี้ชื่อว่าอธิษฐาน
ถูกต้อง แต่ถือเอาเองเพราะวิสาสะกับผู้รับชื่อว่าถือเอาไม่ถูกต้อง
ภิกษุทั้งหลาย ในกรณีนี้ ภิกษุฝากจีวรไปกับภิกษุด้วยสั่งว่า ท่านจงถวายจีวร
ผืนนี้แก่ภิกษุชื่อนี้ ในระหว่างทางภิกษุผู้รับฝากได้ทราบข่าวว่า ผู้รับมรณภาพ
เสียแล้ว จึงอธิษฐานเป็นจีวรมรดกของภิกษุผู้รับนั้น อย่างนี้ชื่อว่าอธิษฐานไม่
ถูกต้อง แต่ถือเอาเพราะวิสาสะกับผู้ฝากชื่อว่าถือเอาถูกต้อง
ภิกษุทั้งหลาย ในกรณีนี้ ภิกษุฝากจีวรไปกับภิกษุด้วยสั่งว่า ท่านจงถวายจีวร
ผืนนี้แก่ภิกษุชื่อนี้ ในระหว่างทาง ภิกษุผู้รับฝากได้ทราบข่าวว่า ผู้ฝากและผู้รับ
ทั้ง 2 มรณภาพเสียแล้ว จึงอธิษฐานเป็นจีวรมรดกของภิกษุผู้ฝาก อย่างนี้ชื่อว่า
อธิษฐานถูกต้อง อธิษฐานเป็นจีวรมรดกของภิกษุผู้รับชื่อว่าอธิษฐานไม่ถูกต้อง
กรณีที่ 2 ฝากไปด้วยกล่าวว่า ผมขอถวาย...
ภิกษุทั้งหลาย ในกรณีนี้ ภิกษุฝากจีวรไปกับภิกษุด้วยกล่าวว่า ผมขอ
ถวายจีวรผืนนี้แก่ภิกษุชื่อนี้ ในระหว่างทาง ภิกษุผู้รับฝากถือเอาเองเพราะวิสาสะ
กับผู้ฝาก อย่างนี้ชื่อว่าถือเอาไม่ถูกต้อง แต่ถือเอาเพราะวิสาสะกับผู้รับชื่อว่าถือเอา
ถูกต้อง
ภิกษุทั้งหลาย ในกรณีนี้ ภิกษุฝากจีวรไปกับภิกษุด้วยกล่าวว่า ผมขอ
ถวายจีวรผืนนี้แก่ภิกษุชื่อนี้ ในระหว่างทาง ภิกษุผู้รับฝากถือเอาเองเพราะวิสาสะ