เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวรรค [8. จีวรขันธกะ] 227. กุสจีราทิปฏิกเขปกถา
226. นัคคิยปฏิกเขปกถา
ว่าด้วยทรงห้ามเปลือยกาย

เรื่องภิกษุเปลือยกาย
[370] สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งเปลือยกายเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ณ
ที่ประทับแล้วได้กราบทูลดังนี้ว่า “พระพุทธเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคตรัสสรรเสริญ
ความมักน้อย สันโดษ ความขัดเกลา ความกำจัด อาการน่าเลื่อมใส การไม่สะสม
การปรารภความเพียรโดยประการต่าง ๆ การเปลือยกายนี้ย่อมเป็นไปเพื่อความ
มักน้อย ความสันโดษ ความขัดเกลา ความกำจัด อาการน่าเลื่อมใส การไม่
สะสม การปรารภความเพียรโดยประการต่าง ๆ ขอประทานวโรกาส พระผู้มี
พระภาคทรงโปรดอนุญาตการเปลือยกายแก่ภิกษุเถิด พระพุทธเจ้าข้า”
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงตำหนิว่า “โมฆบุรุษ การกระทำของเธอไม่
สมควร ไม่คล้อยตาม ไม่เหมาะสม ไม่ใช่กิจสมณะ ใช้ไม่ได้ ไม่ควรทำเลย
โมฆบุรุษ ไฉนเธอจึงได้สมาทานการเปลือยกายที่พวกเดียรถีย์ทำกันเล่า โมฆบุรุษ
การทำอย่างนี้มิได้เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของคนที่ยังไม่เลื่อมใส ฯลฯ” ครั้นทรง
ตำหนิแล้วทรงแสดงธรรมีกถารับสั่งภิกษุทั้งหลายว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึง
สมาทานการเปลือยกายที่พวกเดียรถีย์ทำกัน รูปใดสมาทาน ต้องอาบัติถุลลัจจัย”

227. กุสจีราทิปฏิกเขปกถา
ว่าด้วยทรงห้ามผ้าคากรองเป็นต้น

เรื่องภิกษุนุ่งผ้าคากรองเป็นต้น
[371] สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งนุ่งผ้าคากรอง ฯลฯ นุ่งผ้าเปลือกไม้ ฯลฯ นุ่ง
ผ้าผลไม้ ฯลฯ นุ่งผ้าทอด้วยผมคน ฯลฯ นุ่งผ้าทอด้วยขนสัตว์ ฯลฯ นุ่งผ้าทอ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 5 หน้า :246 }


พระวินัยปิฎก มหาวรรค [8. จีวรขันธกะ] 227. กุสจีราทิปฏิกเขปกถา
ด้วยขนปีกนกเค้า ฯลฯ นุ่งหนังเสือแล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ณ ที่ประทับ
ได้กราบทูลดังนี้ว่า “พระพุทธเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคตรัสสรรเสริญความมักน้อย ความ
สันโดษ ความขัดเกลา ความกำจัด อาการที่น่าเลื่อมใส การไม่สะสม การปรารภ
ความเพียรโดยประการต่าง ๆ หนังเสือนี้ย่อมเป็นไปเพื่อความมักน้อยความสันโดษ
ความขัดเกลา ความกำจัด อาการที่น่าเลื่อมใส การไม่สะสม การปรารภความ
เพียรโดยประการต่าง ๆ ขอประทานวโรกาส พระผู้มีพระภาคทรงโปรดอนุญาตหนังเสือ
แก่ภิกษุทั้งหลายเถิด พระพุทธเจ้าข้า”
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงตำหนิว่า “โมฆบุรุษ การกระทำของเธอไม่สมควร
ไม่คล้อยตาม ไม่เหมาะสม ไม่ใช่กิจสมณะ ใช้ไม่ได้ ไม่ควรทำเลย ไฉนเธอจึงได้ใช้
หนังเสืออันเป็นสัญลักษณ์ของเดียรถีย์เล่า โมฆบุรุษ การทำอย่างนี้ มิได้เป็นไป
เพื่อความเลื่อมใสของคนที่ยังไม่เลื่อมใส ฯลฯ” ครั้นทรงตำหนิแล้วทรงแสดงธรรมีกถา
รับสั่งกับภิกษุทั้งหลายว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงใช้หนังเสืออันเป็นสัญลักษณ์
ของเดียรถีย์ รูปใดใช้ ต้องอาบัติถุลลัจจัย”

เรื่องภิกษุนุ่งผ้าทำด้วยก้านดอกรักเป็นต้น
ต่อมา ภิกษุรูปหนึ่งนุ่งผ้าทำด้วยก้านดอกรัก ฯลฯ นุ่งผ้าทำด้วยเปลือกปอ
แล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ณ ที่ประทับ ได้กราบทูลดังนี้ว่า “พระพุทธเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคตรัสสรรเสริญความมักน้อย ความสันโดษ ความขัดเกลา ความ
กำจัด อาการที่น่าเลื่อมใส การไม่สะสม การปรารภความเพียรโดยประการต่าง ๆ
ผ้าทำด้วยเปลือกปอนี้ย่อมเป็นไปเพื่อความมักน้อย ความสันโดษ ความขัดเกลา
ความกำจัด อาการที่น่าเลื่อมใส การไม่สะสม การปรารภความเพียรโดยประการ
ต่าง ๆ ขอประทานวโรกาส พระผู้มีพระภาคทรงโปรดอนุญาตผ้าเปลือกปอแก่ภิกษุ
ทั้งหลายเถิด พระพุทธเจ้าข้า”
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงตำหนิว่า “โมฆบุรุษ การกระทำของเธอไม่
สมควร ไม่คล้อยตาม ไม่เหมาะสม ไม่ใช่กิจสมณะ ใช้ไม่ได้ ไม่ควรทำเลย


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 5 หน้า :247 }