เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวรรค [8. จีวรขันธกะ] 219. วิสาขาวัตถุ
5. อีกอย่างหนึ่ง ภิกษุผู้พยาบาลภิกษุไข้มัวแสวงหาภัตตาหารเพื่อ
ตนเอง จะนำภัตตาหารไปถวายภิกษุไข้ในเมื่อเวลาสาย ตนเองจะ
อดอาหาร ภิกษุผู้พยาบาลภิกษุไข้นั้นได้ฉันคิลานุปัฏฐากภัตของ
หม่อมฉันแล้ว จะนำภัตตาหารไปถวายภิกษุไข้ได้ทันเวลา ตนเองก็
ไม่อดอาหาร หม่อมฉันเห็นอำนาจประโยชน์นี้ จึงปรารถนาถวาย
คิลานุปัฏฐากภัตแก่พระสงฆ์จนตลอดชีวิต
6. อีกอย่างหนึ่ง เมื่อภิกษุไข้ไม่ได้เภสัชที่เป็นสัปปายะ อาพาธจะ
กำเริบ หรือถึงมรณภาพได้ ภิกษุไข้นั้นฉันคิลานเภสัชของหม่อมฉัน
แล้ว อาพาธจะทุเลาหรือไม่ถึงมรณภาพ หม่อมฉันเห็นอำนาจ
ประโยชน์นี้ จึงปรารถนาถวายคิลานเภสัชแก่พระสงฆ์จนตลอดชีวิต
7. อีกอย่างหนึ่ง พระผู้มีพระภาคทรงเห็นอานิสงส์ 10 ประการ
จึงได้ทรงอนุญาตข้าวต้มไว้ที่เมืองอันธกวินทะ หม่อมฉันเห็น
อำนาจอานิสงส์เหล่านั้น จึงปรารถนาถวายข้าวต้มเป็นประจำแก่
พระสงฆ์จนตลอดชีวิต
8. พระพุทธเจ้าข้า ภิกษุณีทั้งหลายในธรรมวินัยนี้ เปลือยกายอาบน้ำ
ในแม่น้ำอจิรวดีท่าเดียวกับหญิงแพศยา พวกหญิงแพศยาทั้งหลาย
เย้ยภิกษุณีเหล่านั้นว่า แม่เจ้าทั้งหลาย พวกท่านยังเป็นสาว
จะประพฤติพรหมจรรย์ไปทำไมกัน ธรรมดามนุษย์ควรบริโภคกาม
มิใช่หรือ ต่อเมื่อชรา พวกท่านจึงค่อยประพฤติพรหมจรรย์
เมื่อเป็นอย่างนี้ ชื่อว่าได้หยิบฉวยเอาประโยชน์ทั้ง 2 แล้ว”
ภิกษุณีเหล่านั้นถูกพวกหญิงแพศยาเย้ยหยันต่างเก้อเขิน พระ
พุทธเจ้าข้า มาตุคาม1เปลือยกายย่อมไม่งดงาม น่าเกลียด น่าชัง
หม่อมฉันเห็นอำนาจประโยชน์นี้ จึงปรารถนาถวายผ้าอาบน้ำแก่
ภิกษุณีสงฆ์จนตลอดชีวิต

เชิงอรรถ :
1 มาตุคาม คือผู้หญิง

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 5 หน้า :223 }


พระวินัยปิฎก มหาวรรค [8. จีวรขันธกะ] 219. วิสาขาวัตถุ
[351] พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า “วิสาขา เธอเห็นอานิสงส์อะไรจึงขอพร
8 ประการกับตถาคต”
นางวิสาขามิคารมาตากราบทูลว่า “พระพุทธเจ้าข้า ภิกษุทั้งหลายในพระ
ธรรมวินัยนี้จำพรรษาในทิศต่าง ๆ แล้วจะเดินทางมากรุงสาวัตถีเพื่อเฝ้าพระผู้มี
พระภาค ภิกษุเหล่านั้นจะเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคทูลถามว่า ‘พระพุทธเจ้าข้า ภิกษุ
ชื่อนี้มรณภาพแล้ว เธอมีคติอย่างไร มีภพหน้าอย่างไร’ พระผู้มีพระภาค
จะทรงพยากรณ์ภิกษุนั้นในโสดาปัตติผล สกทาคามิผล อนาคามิผล หรืออรหัตผล
หม่อมฉันจะเข้าไปหาภิกษุเหล่านั้นแล้วถามว่า ‘พระคุณเจ้ารูปนั้นเคยมากรุงสาวัตถี
ไหมเจ้าข้า’ ถ้าภิกษุเหล่านั้นตอบหม่อมฉันว่า ‘ภิกษุนั้นเคยมากรุงสาวัตถี’ ใน
เรื่องนี้หม่อมฉันจะสันนิษฐานได้ว่า ‘พระคุณเจ้านั้นคงใช้ผ้าวัสสิกสาฎก คงฉัน
อาคันตุกภัต คมิกภัต คิลานภัต คิลานุปัฏฐากภัต คิลานเภสัช หรือธุวยาคู
ของหม่อมฉันเป็นแน่’ เมื่อหม่อมฉันระลึกถึงบุญกุศลนั้นก็จะเกิดความปลื้มใจ เมื่อ
หม่อมฉันปลื้มใจก็จะเกิดอิ่มใจ เมื่ออิ่มใจ กายจะสงบ หม่อมฉันมีกายสงบ
จะมีความสุข จิตของผู้มีความสุขจะตั้งมั่น หม่อมฉันจะได้อบรมอินทรีย์ พละ และ
โพชฌงค์ หม่อมฉันเห็นอานิสงส์นี้จึงกราบทูลขอพร 8 ประการกับพระตถาคต
พระพุทธเจ้าข้า”
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “ดีละ ดีละ วิสาขา เป็นการดีแล้วที่เธอเห็นอานิสงส์
นี้จึงขอพร 8 ประการกับตถาคต วิสาขา เราอนุญาตพร 8 ประการแก่เธอ”

คาถาอนุโมทนา
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคทรงอนุโมทนานางวิสาขามิคารมาตาด้วยพระคาถา
เหล่านี้ว่า
สตรีใดเมื่อให้ข้าวและน้ำก็เบิกบานใจ
มีศีล เป็นสาวิกาของพระสุคต

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 5 หน้า :224 }