เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวรรค [8. จีวรขันธกะ] 209. สมติงสวิเรจนกถา
ทรงถ่ายแล้วจะทรงสรงสนานแล้วจึงจะถ่ายอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเป็นดังนั้น พระผู้มีพระ
ภาคจักทรงถ่ายครบ 30 ครั้งพอดี”
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทราบความคิดของชีวกโกมารภัจด้วยพระทัย
จึงรับสั่งกับท่านพระอานนท์ว่า “อานนท์ เวลานี้ ชีวกโกมารภัจออกไปนอกซุ้ม
ประตูได้มีความคิดดังนี้ว่า ‘เราทูลถวายพระโอสถถ่ายแด่พระผู้มีพระภาคเพื่อให้ถ่าย
ครบ 30 ครั้ง พระตถาคตมีพระวรกายหมักหมมด้วยสิ่งอันเป็นโทษ จะไม่ทำพระผู้มี
พระภาคให้ถ่ายครบ 30 ครั้ง (แต่) จะทำพระผู้มีพระภาคให้ถ่ายเพียง 29 ครั้ง
อีกประการหนึ่ง พระผู้มีพระภาคทรงถ่ายแล้วจะทรงสรงสนาน จักทำพระผู้มี
พระภาคซึ่งทรงสรงสนานแล้วให้ถ่ายอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเป็นดังนั้น พระผู้มีพระภาค
จักทรงถ่ายครบ 30 ครั้งพอดี’ อานนท์ ถ้าอย่างนั้นเธอจงเตรียมน้ำร้อนไว้”
ท่านพระอานนท์กราบทูลรับสนองพระพุทธดำรัสแล้วจัดเตรียมน้ำร้อนไว้ถวาย
ต่อมา ชีวกโกมารภัจเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ได้ถวายอภิวาทแล้วนั่งอยู่
ณ ที่สมควร ได้กราบทูลว่า “พระผู้มีพระภาคทรงถ่ายแล้วหรือ พระพุทธเจ้าข้า”
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า “ชีวก เราถ่ายแล้ว”
ชีวกโกมารภัจกราบทูลว่า “เมื่อข้าพระองค์ออกไปนอกซุ้มประตูคิดว่า ‘เราทูล
ถวายพระโอสถถ่ายแด่พระผู้มีพระภาคเพื่อให้ถ่ายครบ 30 ครั้ง พระตถาคตมี
พระวรกายหมักหมมด้วยสิ่งอันเป็นโทษ จะทำพระผู้มีพระภาคให้ไม่ถ่ายครบ 30
ครั้ง (แต่)จะทำพระผู้มีพระภาคให้ถ่ายเพียง 29 ครั้ง พระผู้มีพระภาคทรงถ่าย
แล้วจะทรงสรงสนาน จักทำพระผู้มีพระภาคซึ่งทรงสรงสนานแล้วให้ถ่ายอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อเป็นดังนี้ พระผู้มีพระภาคจักทรงถ่ายครบ 30 ครั้งพอดี พระผู้มีพระภาค
โปรดทรงสรงสนานเถิด พระพุทธเจ้าข้า พระสุคตโปรดสรงสนานเถิด”
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงสรงน้ำอุ่น วิธีนี้ทำพระผู้มีพระภาคซึ่งทรงสรง
สนานแล้วให้ถ่ายอีกครั้งหนึ่งจึงครบ 30 ครั้งพอดี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 5 หน้า :196 }


พระวินัยปิฎก มหาวรรค [8. จีวรขันธกะ] 210. วรยาจนากถา
ครั้งนั้น ชีวกโกมารภัจกราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า “พระผู้มีพระภาคไม่
ควรเสวยพระกระยาหารที่ปรุงด้วยน้ำต้มผักต่าง ๆ จนกว่าพระวรกายจะเป็นปกติ”

210. วรยาจนากถา
ว่าด้วยหมอชีวกโกมารภัจกราบทูลขอพร
[337] ต่อมาไม่นานนัก พระผู้มีพระภาคทรงมีพระวรกายเป็นปกติ ครั้งนั้น
ชีวกโกมารภัจจึงถือผ้าสิไวยกะคู่ 1 นั้นไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถวายอภิวาทแล้ว
นั่ง ณ ที่สมควรได้กราบทูลดังนี้ว่า “ข้าพระองค์ ทูลขอพรอย่างหนึ่งกับพระผู้มีพระภาค
พระพุทธเจ้าข้า”
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “ตถาคตทั้งหลายเลิกให้พรเสียแล้ว ชีวก”
ชีวกโกมารภัจกราบทูลว่า “ข้าพระองค์ทูลขอพรที่เหมาะสมและไม่มีโทษ พระ
พุทธเจ้าข้า”
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “จงพูดมาเถิด ชีวก”

เรื่องทรงรับคู่ผ้าสิไวยกะ
ชีวกโกมารภัจกราบทูลว่า “พระผู้มีพระภาคและภิกษุสงฆ์ถือผ้าบังสุกุลอยู่เป็น
วัตร ผ้าสิไวยกะคู่นี้เป็นผ้าเนื้อดีเลิศ ประเสริฐสุด มีชื่อเด่นเยี่ยมกว่าคู่ผ้าเป็น
อันมาก หลายร้อย หลายพัน หลายแสนคู่ พระเจ้าปัชโชตทรงส่งมาพระราชทาน
พระองค์โปรดรับผ้าสิไวยกะคู่ 1 ของข้าพระองค์เถิดพระพุทธเจ้าข้า และโปรด
ทรงอนุญาตคหบดีจีวรแก่ภิกษุสงฆ์”
พระผู้มีพระภาคทรงรับผ้าสิไวยกะแล้ว
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคทรงชี้แจงให้ชีวกโกมารภัจเห็นชัด ชวนให้อยากรับ
ไปปฏิบัติ เร้าใจให้อาจหาญแกล้วกล้า ปลอบชโลมใจให้สดชื่นร่าเริงด้วยธรรมีกถา

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 5 หน้า :197 }